สังคม

ภาคเหนือวิกฤต! ค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดที่อ.แม่สาย กระทบทารกแรกเกิดในรพ. ต้องใช้ถุงลมปอดช่วย

โดย parichat_p

28 มี.ค. 2566

87 views

ปัญหาฝุ่น pm2.5 ยังคงวิกฤติ ต่อเนื่อง วันนี้ ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 28 มีนาคม 2566


ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน พบคราบฝุ่นสูงสุดอยู่ในพื้นที่ อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายมีค่าฝุ่น 530 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นอกจากนั่น ในพื้น จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.อุทัยธานี จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม และ จ. อุบลราชธานี ค่าฝุ่น เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่

ขณะที่ ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 15 - 44 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 12 - 28 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13 - 24 มคก./ลบ.ม.


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 15 - 43 มคก./ลบ.ม.


ต่อเนื่องปัญหาเรื่องฝุ่นที่กระทบต่อประชาชน โดยเพจ Doctor กล้วย มีการโพสต์ภาพค่าฝุ่นในห้องทารกแรกเกิด จากโรงพยาบาลแม่จัน จังหวัดเชียงราย พร้อมระบุ วันนี้แอดได้เดินไปดู ห้องเด็กทารกแรกเกิด มีน้องสองคนเพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อคืนนี้เอง แต่วันนี้หนูน้อยต้องเจอวันที่หมอกควันหนักหน่วงที่สุดวันนึง ข้างนอกห้อง 800 กว่า ส่วนในห้อง 450 โอ้สงสารเด็กๆที่ใช้ถุงลมปอดวันแรกต้องเจอหนักหน่วงขนาดนี้ แอดยืนคุยกับพ่อแม่เด็ก กลับบ้านจะทำไงเนี่ย ? เห็นแววตาพ่อแม่จ้องมองลูก ก็รู้เลยว่ากังวล ขนาดห้อง รพ. ยัง400 กว่า


ตอนนี้ระยะเเรกจะนำเครื่องฟอกอากาศที่ได้มาจากการบริจาค เข้าตั้งในพื้นที่ห้องทารกแรกเกิด และ แผนกผู้ป่วยในเด็ก ก่อน ระยะต่อไปจะทำระบบปิด(positive room)ให้แผนกเด็กแรกเกิด แอดตัดสินใจจะรับบริจาคเพื่อเป็นงบกองทุนเริ่มต้นในการทำระบบ เพราะมีเพื่อนๆมากมายถามร่วมบริจาคเข้ามา หรือเป็นโพสต์ก่อนหน้าที่สะท้อนถึงผลกระทบจากค่าฝุ่นที่พุ่งสูง อันนี้ รพ แอดเองวันนี้…เด็กๆแรกเกิด ต้องมาพบเจอมลพิษแบบนี้ ปอดน้องๆก็เพิ่งเริ่มทำงานวันแรก ขนาดใช้เครื่องฟอกหลายตัว และยังมีเด็กๆในหอผู้ป่วยในอีก อย่างที่รู้เราใส่แมสก์ให้เด็กไม่ได้ แถมเรายังทำได้แค่บรรเทาด้วยเครื่องฟอกอากาศ แต่ภาวะแบบนี้ หมอก็ไม่รู้จะปกป้องดูแลเด็กๆยังไงแล้ว สงสารจังลูก จากฝั่งของ กระทรวงสาธารณสุข โดย


นพ.โอกาส การกวินพงศ์ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาระบุว่า ปัญหาเรื่องฝุ่น กระทรวงสาธารณสุขดูได้แค่ปลายเหตุซึ่งมีการเตรียมความพร้อมทั้งยาและบุคลากรเพื่อให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ด้านสุขภาพ


เบื้องต้นตอนนี้ ได้กำชับให้ ใช้เครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาลไปก่อนโดยเฉพาะรักษาคนไข้กลุ่มเปราะบาง ซึ่งเครื่องฟอกอากาศ จะมีจำนวนเพียงพอหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ในการจัดสรรงบประมาณเดิมที่ได้รับ เพราะเครื่องฟอกอากาศไม่ได้อยู่ในแผนเดิมของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีการจัดสรรงบประมาณให้โดยเฉพาะ


"เศรษฐา"ห่วงปัญหาฝุ่น กระทบกลุ่มเสี่ยงสูง แนะแก้ไขโดยเร็วโดยทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว พร้อมเจรจากับเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอ


นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยโพสต์ Facebook ระบุถึง ปัญหามลภาวะทางฝุ่นว่า ตอนนี้เป็นที่น่าห่วงมากครับ โดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทยอย่างแม่สาย จังหวัดเชียงราย หรือจังหวัดเชียงใหม่เอง ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก และส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุภาพของพี่น้องทุกคน ในภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเองก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก


เรื่องนี้ต้องแก้ไขโดยเร็วโดยอาศัยการจัดการหลายส่วนด้วยกัน ระยะสั้นทั้งการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงสูง การสนับสนุนหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพ ระยะกลางอย่างการจัดการน้ำเพื่อเปลี่ยนตอข้าวให้เป็นปุ๋ย ลดการเผาไร่โดยเปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ ใช้กลไกทางตลาดจูงใจให้ไม่เผา ดันราคารถไฟฟ้าลงเพื่อสนับสนุนให้คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น และระยะยาวด้วยการผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด การต่างประเทศที่ต้องเจรจากับเพื่อนบ้าน และพัฒนานวัตกรรมการเกษตรเพื่อขจัดปัญหาตั้งแต่ต้นตอ อากาศสะอาดเพื่อใช้หายใจ ควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุด ที่พี่น้องประชาชนต้องได้รับครับ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง สถานการณ์ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ว่า เมื่อเช้าวันนี้ได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงสารธารณสุข ที่ขณะนี้อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้รับความยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม ในเรื่องของยาเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาขยายหลอดลม หน้ากากอนามัยที่ป้องกันพีเอ็ม 2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งจะสนับสนุนในพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยง ซึ่งหากกรณีฉุกเฉินปลัดกระทรวง สามารถ ตัดสินใจได้ทันที


พร้อมย้ำว่าในส่วนของโรงพยาบาล ก็มีความพร้อมเช่นกัน มีพื้นที่ปลอดฝุ่น โดยผู้ป่วยที่มีอาการจะมีห้องแยกโดยเฉพาะ ที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศมาก เป็นพิเศษ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วย ที่เดินทางมารักษายังโรงพยาบาล ยังไม่มีมากนัก ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือมีผู้ป่วยประมาณ 4,000 รายต่อสัปดาห์ โรงพยาบาลยังสามารถใช้บริการได้โดยไม่มีปัญหา เรื่องทรัพยากร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะดูแลในส่วนของปลายเหตุให้ไม่มีปัญหามากขึ้น



นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าปัญหาภัยพิบัติที่ไทยกำลังเผชิญขณะนี้ โดยเฉพาะพายุฤดูร้อนลูกเห็บตก ระหว่างวันที่ 25 ถึง 27 มีนาคมนี้ รัฐบาลได้มีการประกาศแจ้งเตือน ให้แต่ละจังหวัดรับมือแล้ว และยืนยันรัฐบาลรับมือได้


ส่วนอากาศร้อนจัดที่จะเกิดขึ้นใน ขณะนี้ต่อเนื่องจนถึงเดือนเมษายนนั้น นายนริศ กล่าวว่า หากส่งผลกับประชาชนจนเกิดเป็นภัยพิบัติก็สามารถประกาศให้เป็นภัยพิบัติได้ เพียงแต่สภาพอากาศในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะประกาศได้เหมือนกับต่างประเทศแต่ประเทศไทยเคยมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา แต่ยังไม่ถึง 45 องศา


นายนริศ ยังกล่าวถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า จะดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชน โดยสัปดาห์หน้านี้ จะมีรายละเอียดของมาตรการออกมา


สำหรับเรื่องฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือขณะนี้ นายนริศ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยได้ระดมสรรพกำลัง อุปกรณ์ เฮลิคอปเตอร์ เครื่องมือ ที่จำเป็น เข้าไปในพื้นที่ทั้งหมดแล้วเพื่อดำเนินการแก้ไขช่วยเหลือประชาชน


ขณะที่มาตรการอื่นๆ รัฐบาลได้มีการจัดเตรียมงบประมาณ ตามแผนดำเนินงาน4 ปีเพื่อจัดหาเครื่องมือ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาแก้ปัญหา รวมทั้งเห็นควรที่จะเตรียมย้าย แหล่งก่อฝุ่นละอองออกนอกเมืองพร้อมจัดโซนนิ่งโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดปัญหาโดยยกกรุงปักกิ่งประเทศจีนเป็นต้นแบบ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ


ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าในวันนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะหยิบยกปัญหาและอุปสรรคของหน่วยงานในกำกับที่เข้าไปแก้ไขฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบโดยมองว่ากระทรวงการต่างประเทศอาจจะต้องมีมาตรการเพื่อหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ลดการเผา ซึ่งเป็นต้นเหตุของฝุ่นละออง และเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาในประเทศไทย ความร้อนวานนี้ ไทยสูงปรี๊ด...!! ถึง 5.5 พันจุด สูงสุดในรอบปี 5 ที่ผ่านมา



GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 26 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อนมากที่สุด 5,572 จุด สูงสุดในรอบปี 5 จากการเก็บสถิติที่ผ่านมา ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างพม่ายังครองแชมป์สูงสุงถึง 10,563 จุด ตามด้วย สปป.ลาว 9,652 บาท, กัมพูชา 1,342 จุด, เวียดนาม 870 จุด และ มาเลเชีย 22 จุด



สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 2,982 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,785 จุด , พื้นที่เกษตร 376 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 207 จุด , พื้นที่เขต สปก. 202 จุด , และพื้นที่ริมทางหลวง 20 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ #น่าน 638 จุด #แม่ฮ่องสอน 558 จุด และ #อุตรดิตถ์ 430 จุด สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด


โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น



อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

คุณอาจสนใจ

Related News