'ชูวิทย์' ควงทนายขึ้นศาล ขู่ฟ้อง 'ทนายตั้ม' 100 ล้าน ฐานหมิ่นฯ ปมรับเงินเทา

คดีการพนันออนไลน์เครือข่าย พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว ที่ถูกให้ออกจากราชการหลังถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดโปงเบื้องหลังความร่ำรวยและอาณาจักรธุรกิจสีเทา



ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เพราะเชื่อว่ามีการอำพรางทางการเงินที่แยบยลกว่า หลังถูกเปิดโปงก็อาจมีการโยกย้ายทรัพย์สินออกไปก่อนหน้า ที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ จนกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวกล่าวหาว่า นายชูวิทย์ รับเงินจำนวน 10 ล้านบาท จากสารวัตรซัว โดยมีอดีตตำรวจ ยศนายพล 2 คน นำไปมอบให้ ปรากฏว่า เพียงวันเดียว ทางโรงพยาบาล 2 แห่ง ที่รับบริจาคเงินนี้ จากนายชูวิทย์ ก็ทำเรื่องคืนเงินทั้งหมดกลับมา ซึ่งนายชูวิทย์ บอกว่า ให้ติดตามว่าพรุ่งนี้จะนำเงินดังกล่าวไปมอบให้กับใคร



นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ออกมาระบุ ถึงกรณีที่ถูก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวหา ว่า รับเงินจากสารวัตรซัว 10 ล้านบาท เป็นการกล่าวหาโดยปราศจากหลักฐาน จึงขอให้สมาคมทนายความตรวจสอบ ว่าทนายษิทรา มีการเรียกรับผลประโยชน์ ในการแถลงข่าวแต่ละครั้งหรือไม่ ส่วนเงินบริจาคจำนวน 6 ล้านบาท ที่ทางโรงพยาบาลคืนมา อยากให้ติดตามว่าวันพรุ่งนี้จะนำไปให้ใคร



ทนายอนันตชัย ย้ำว่าการที่ทนายษิทรา เอารูปที่ถ่ายแค่ถุงเงินมาโพสต์นั้น ไม่มีรูปนายชูวิทย์รับเงิน 10 ล้าน ถือเป็นการหมิ่นประมาท อีกทั้ง ไม่มีใครรู้ว่าจำนวนเงินที่แท้จริงเป็นจำนวนเท่าใด อาจถูกดึงออกไปก่อนหรือไม่ ซึ่งนายชูวิทย์ได้ปฏิเสธไปแล้วแต่ไม่มีใครมารับคืนจึงนำไปทำบุญ อีกทั้งกล่าวหา บุตรชายของนายชูวิทย์ว่ารับเงินดิจิตอล จำนวน 50 ล้านบาท เป็นการกล่าวในช่วงเวลาที่นายชูวิทย์แถลง หรือให้สัมภาษณ์เปิดโปงการกระทำโดยมิชอบ ของสารวัตรซัว โดยมุ่งหมายลดความน่าเชื่อถือ การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของทนายษิทรา เข้าข่ายน่าจะเป็นการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยหลังจากนี้จะให้ นายชูวิทย์ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย กรรมละ 100 ล้านบาท



ด้านทนายษิทรา แถลงโต้ กรณีที่ นายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ภาพใบเสร็จรับเงิน 3 แสนบาทในชื่อของบริษัทนายษิทรา ที่ระบุเป็นค่าแถลงข่าวออกสื่อ ครั้งละ3แสนบาท และเก็บเพิ่มอีก 15% ยอมรับว่า เรียกเงินแพงเพราะหากถูกฟ้องจะต้องมีค่าดำเนินการ และยังยืนยันว่าไม่ได้หลอกใช้สื่อ



ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจกองปราบปรามให้ ดำเนินคดีอาญา กับพล.ต.ต.และ พล.ต.ท. 2 นาย กับพวก รวม 4 คน ในข้อหาฟอกเงินในกรณีที่นำเงินจากสารวัตรซัว ไปมอบให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์จำนวน 6 ล้านบาท



โดยกล่าวโทษ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ป.ป.ง. พร้อมกับ พล.ต.ท.เปี๊ยก นรต.รุ่น35 และพวกรวม 4 คน เกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 6 ล้านบาท จากสารวัตรซัว ไปมอบให้นายชูวิทย์ ให้ทางกองบังคับการปราบปรามซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดีเอาผิดสารวัตรซัว ให้อายัดจำนวน 6 ล้านบาทมาตรวจสอบ และเอาผิดกับนายชูวิทย์ ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และยังเปิดเผยอีกว่า พบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันถูกโอนเข้าบัญชีของ ภรรยา ของพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ อีกด้วย



อีกทั้ง นายอัจฉริยะยังไปร้องทุกข์ที่ สน.ทองหล่อ ให้สืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีอาญากับบุคคลในภาพ จากโพสของ นายษิทรา ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์และชายอีกหนึ่งคนพร้อมถุงเงิน 2 ถุง ในข้อหาเดียวกัน ว่านำเงินมาจ่ายให้ใคร และจ่ายสถานที่ใด