สังคม

ป.ป.ส. ยัน ผลตรวจสอบมีเงินบางส่วนจาก 'บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป' เชื่อมโยงนักการเมืองจริง

โดย parichat_p

22 มี.ค. 2566

181 views

ความคืบหน้าคดี ยาเสพติดเครือข่าย นายทุน มิน หลัด วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. แถลงยอมรับว่า มีเงิน จากบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป บางส่วนเชื่อมโยงนักการเมืองจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องยาเสพติดหรือไม่ รวมทั้งได้อายัดการดำเนินธุรกิจในเครือไว้ตรวจสอบแล้วทั้งหมด


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายนายมานพ แสงโสทร นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงาน ปปส.กทม. แถลงผลการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด กลุ่มนาย ทุน มิน หลัด (Tun Min Latt) และผู้เกี่ยวข้อง


โดย นายวิชัย กล่าวว่า ป.ป.ส. ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาไว้ตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท อายัดบัญชีม้า รวม 111 บัญชี ประมาณ 164 ล้านบาท ส่วนโรงแรมอัลลัวร์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการแจ้งคำสั่งการตรวจสอบ และอายัดทรัพย์สิน รวมถึงการแจ้งให้ระงับการรับเงินค่าใช้ไฟฟ้าจากบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป (พีแอนด์อี) และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการชำระเงินในนามของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ปฯ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สายได้รับทราบและดำเนินการตามที่ สำนักงาน ป.ป.ส. แจ้งแล้ว



ซึ่งระหว่างนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย ประสานงานไปยังประเทศเมียนมาเพื่อเร่งดำเนินการให้สัมปทานแก่บริษัทอื่น เพื่อมาทําสัญญา ซื้อ-ขายไฟฟ้าแทนบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ประหว่างรอการดำเนินการ


ขณะที่นายมานพ ยอมรับว่าเป็นเรื่อยากที่จะตรวจยึดอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ในต่างประเทศ เพราะข้อบังคับใช้กฎหมายไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ภายหลังจากที่มีการตรวจสอบบัญชีมากว่า111บัญชีที่ยึดมาจากบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป (พีแอนด์อี) พบว่ามีบางส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับนักการเมือง แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิสูจน์ว่าเงินเส้นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการกระทำความเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่


ทางด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า กรณีการเพิกถอนหมายจับ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุด ได้มอบหมายให้ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นพนักงานสอบสวน มีการหารือร่วมกันซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก โดยเน้นย้ำขอให้ทำด้วยความรอบคอบและรวดเร็ว อีกทั้งหากมีโอกาสก็ให้ชี้แจงกับทุกภาคส่วนไม่เคลือบแคลงสงสัยและเกิดความสบายใจ พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาไม่ได้ถูกกดดันหรือมีใครเข้ามาจงใจทำให้คดีถูกบิดเบี้ยว


ส่วนการโยกย้ายตำรวจชุดจับกุม ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่มีใครมาสั่งหรือแทรกแซง แต่เพราะต้นสังกัดมีเหตุผลและความจำเป็นต้องย้ายและให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากว่าเป็นการบริหารบุคคลภายใน ให้มีประสิทธิภาพ ไม่มีอย่างอื่นจริงๆ

คุณอาจสนใจ

Related News