สังคม

แกะรอยต้นทาง 'ซีเซียม137' สูญหายจากโรงงานไฟฟ้าไอน้ำ ถึงโรงงานหลอมโลหะ

โดย parichat_p

21 มี.ค. 2566

134 views

ความคืบหน้าประเด็นกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 หายไปจากโรงไฟฟ้าไอน้ำ ที่อำเภอ ศรีมหาโพธิ ก่อนจะพบความเป็นไปได้ว่าถูกหลอมไปแล้วที่โรงงานหลอมเหล็กในอำเภอกบินทร์บุรี ล่าสุดกองบังคับการป้องกันและปราบปราม การกระทำผิดทางธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม หรือ ปทส.ให้ติดตามการหายไปของเซียม 137 ในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นทาง ไปจนถึงปลายทาง ล่าสุด กองบังคับการ ปทส. ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าไป ตรวจสอบโรงไฟฟ้าไอน้ำ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ เมื่อบ่ายวันนี้ พร้อมยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยจากโรงงานรับซื้อของเก่า ที่น่าจะเป็นตัวเชื่อมจากโรงงานไฟฟ้าไอน้ำ ไปถึงโรงงานหลอมเหล็กดังกล่าว


ไซโลทรงกระบอกที่เห็นนี้ คือแท็งค์ที่เก็บเถ้าที่เกิดจากการเผาไหม้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าไอน้ำที่มีเชื้อเพลิงจากชีวะมวล /ซึ่งระดับเถ้าละอองในไซโลนี้ จะวัดปริมาณหรือระดับความสูงภายในไซโล ด้วยกัมมันนตรังสี ซีเซียม 137 เพื่อประเมินว่าจะนำเถ้าออกจากไซโลนี้ได้เมื่อใด


จุดที่พนักงานกำลังยืนอยู่สะพานแขวนนั้น คือจุดที่ติดตั้งซีเซียม 137 ที่หายไป / แถบเหล็กคู่ ที่เห็นคือจุดที่ซี 137 เคยอยู่ เชื่อมไว้กับเพลทหรือแท่นขันด้วยน็อต แต่เพลท หรือแท่นที่เห็นตอนนี้ เป็นเพลทที่ซ่อมขึ้นใหม่เมื่อไม่กี่วัน เพราะเพลทหรือแท่นเดิม หลุดหรืออาจะถูกถอดออกไปแล้ว หลังจากซีเซียม 137 หายไป


วันนี้ตำรวจ ปทส. พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบไซโลนี้ ซึ่งเป็นของโรงไฟฟ้าไอน้ำ บริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท ในการให้ข้อมูลและนำตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างดี


ตำรวจพิสูจน์ได้เก็บข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อนำไปวิเคราะห์ทั้งในแง่ความเป็นไปได้ที่ซีเซียม 137 จะหลุดร่วงลงมาเอง เพราะความเสื่อมตามภาพของเหล็กได้หรือไม่ เนื่องจากติดตั้งมาตั้งแต่ 1 มีนาคม 2538 หรือจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีใครจงใจกระทำให้หลุดร่วง


นอกจากนี้ เมื่อหลุดร่วงออกจากที่ติดตั้งแล้วจะกระแทกราวบันได ที่มีอยู่แล้ว และกระเด็นไปอื่นใดหรือไม่ / รวมถึง เมื่อหลุดร่วงลงมาแล้ว เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่จะมีบุคคล นำแท่งซีเซียมนี้ออกไปภายนอก


ข้อมูลที่ทีมข่าวได้รับ ตรงกันกับการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเมื่อวานนี้ว่า โรงไฟไฟไอน้ำ อยู่ในพื้นที่ควบคุมรัดกุม เป็นไปได้น้อยหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะมีรถรับซื้อของเก่าทั่วไป หรือซาเล้งที่จะเข้ามาทีนี่ได้


และก็พบว่า โรงงานมีข้อตกลงในกายของของเก่า หรือเหล็กที่ไม่ใช้แล้ว ให้กับร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ในกิจการประเภทรับซื้อของเก่าเพื่อนำไปคัดแยก และส่งขายรีไซเคิล มีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือว่าร้านรับซื้อของเก่ารายใหญ่นี้ เข้ามารับซื้อวัตถุดิบดังกล่าวจริง และผู้ประกอบการนี้ ก็นำเศษเหล็กที่รวบรวมมา อัดบดเป็นก้อน และส่งให้โรงงานประเภทรีไซเคิล เช่นหลอมเหล็ก // สอดคล้องกับข้อเท็จจริงว่า โรงงานหลอมเหล็กขนาดใหญ่ ก็มักจะไม่รับซื้อของเก่าจากเจ้าเล็กๆ หรือขาจร เพราะไม่ต้องการส่งเสริมหรือเสี่ยงวัสดุที่โจรกรรมมา


อย่างไรก็ตาม ก็มีประเด็นสงสัยว่าหากซีเซียม 137 หลุด หรือร่วงหล่นลงพื้น แล้วถูกนำไปรวมกับวัสดุหรือที่จะขายให้ร้านของเก่า จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนทำงาน ในโรงฯนี้จะไม่รู้ว่านั่นคือ ซีเซียม / หรือหากจะเป็นคนนอกที่ไม่รู้แล้วนำไปขายจริง ก็แทบไม่มีโอกาสที่คนนอกจะเข้าไปถึงที่นั่นได้ ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในประเด็น ที่ตำรวจกำลังติดตามหาความชัดเจน


ผู้บังคับการตำรวจปทส. เปิดเผยกับข่าว 3 มิติว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้แกะรอยติดตามหาเบาะแสการสูญหายไปทุกมิติ ทั้งจากภาพกล้องวงจรปิดรถ ที่เข้าออก โรงไฟฟ้าฯในเที่ยวที่มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะนำซีเซียมออกไป และเบาะแสอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความชัดเจนในคดี


ข่าว 3 มิติได้ข้อมูลว่าที่จริงแล้วทันที ที่ซีเซียมหลุดหายจากแท่นที่ติดตั้งอยู่เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ระบบเฝ้าระวังได้ส่งสัญญาณเตือนความผิดปกติแล้ว แต่แหล่งข่าวระบุว่า ระบบดังกล่าว เตือนก็จริง แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าผิดปกติจากจุดใด ในจำนวน 14 จุดที่โรงงานมีอยู่ และเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นจุดนี้ที่หายไป พนักงานก็พยายามแก้ปัญหาภายใน เพราะเชื่อว่าอาจจะหลุดร่วงในบริเวณนั้น จนกระทั่งได้ตัดสินใจ แจ้งไปยังสำนักงานปรมานูเมื่อสันติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม และเข้าแจ้งความเป็นการลงบันทึกประจำไว้ที่สภ.ศรีมหาโพธิ เมื่อ 10 มีนาคม กระทั่งเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายออกติดตาม

คุณอาจสนใจ