สังคม

'ส.ว.อุปกิต' แจงทั้งน้ำตา สาบานไม่มีเอี่ยวยาเสพติด-ฟอกเงิน เดินหน้าเอาผิดคนใส่ร้าย

โดย panwilai_c

17 มี.ค. 2566

46 views

ความคืบหน้าหลังตำรวจชุดจับกุมยาเสพติดเครือข่ายทุน มิน ลัด ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินคดีแล้ว โดยคดีนี้ อัยการสูงสุด รับผิดชอบคดี เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาญาจักรเพราะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับยาเสพติดข้ามชาติและฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด



ก่อนหน้านี้ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 ได้ ชี้แจงว่า คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้แยกออกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรก ผู้ต้องหา 9 คน มีนายทุน มินลัด และพวก ที่เชื่อมโยงการนำเงินจากการค้ายาเสพติด ฟอกผ่านการทำธุรกิจของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ที่มีลูกเขยของนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เป็นกรรมการผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย



ส่วนสำนวนที่ 2 ซึ่งกลายเป็นปัญหาขณะนี้ คือ หลังจากที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำหลักฐานทางการฟอกเงินของเครือข่ายทุนมินลัต ผ่านบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ที่มีนายอุปกติ เป็นผู้ก่อตั้ง และความเชื่อมโยงกับนายทุนมินลัด เพื่อขอให้ศาลอาญาออกหมายจับ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้แล้ว แต่ปรากฎว่า ศาลเรียกกลับไปเพิกถอนภายในวันเดียวกัน



จนนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล นำหลักฐานไปอภิปรายในสภา ทั้งทางอัยการสูงสุดและโฆษกศาล ออกตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและเปิดชี้แจงไปแล้วบางส่วน

ที่สุดนายนายอุปกิต ที่นายรังสิมันต์ ใช้ชื่อย่อว่า ส.ว.ทรงเอ ก็ออกมาเปิดตัว แถลงเคลียร์ทุกข้อกล่าวหาครั้งแรก



วันนี้ (17 มี.ค. 66) นายอุปกิต เริ่มต้นด้วยการแถลงข่าวด้วยการชี้แจงถึงข้อกล่าวหา ที่ถูกตั้งข้อสังเกตจากการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในสภาและยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นที่กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินผิดกฎหมาย โดยอธิบายเหตุผลว่า สาเหตุที่เพิ่งออกมา ชี้แจงช้า เพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี และเห็นว่า อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของศาล แต่เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิด จึงออกมาแถลงเคลียร์ข้อสงสัยทั้งหมด



ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า มีตำรวจที่ทำคดีดังกล่าวถูกโยกย้าย นายอุปกิต ยืนยันว่า เขาไม่มีอำนาจหรือกดดันให้ใครย้ายตำรวจคดีนี้ แต่ตำรวจที่ถูกย้ายเป็นการย้ายไปตามวงรอบ และไม่มีผลงานในช่วง 3-4 เดือน มีแค่คดีนายทุนมินลัตคดีเดียว อีกทั้งการย้ายครั้งนี้ เป็นการย้ายไปในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ย้ายเพราะการลงโทษ หากมีอิทธิพลจริง ก็คงย้ายออกไปไกลๆ



กรณีนายรังสิมันต์ โจมตีทำให้ตนเองเสียหายอย่างมากนั้น นายอุปกิต กล่าวว่า กรณีการออกหมายจับแล้วยกเลิกหมายจับในวันเดียวกันนั้น เนื่องจากมีการตกแต่งคำพูดในแชทโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเพื่อนำมาปั้นเป็นหลักฐานให้เขามีความผิด ทั้งที่เป็นการติดต่อทำธุรกิจกับนักธุรกิจต่างประเทศถูกกฎหมาย



พร้อมกันนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามปั้นหลักฐานต่างๆไปฟ้องต่อศาล ผ่านกระบวนการที่มีความเชื่อมโยงกันจากหลายฝ่าย ทั้งนักวิชาการ นักเคลื่อนไหว นักการเมือง สื่อมวลชน และตำรวจ มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่



และนายอุปกิต ได้อธิบายถึงที่มาของการทำธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าด้วย ระบุว่า ดำเนินการมาก่อนหน้านี้กว่าสิบปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้าไปทำโรงแรมที่ท่าขี้เหล็กแต่มีปัญหาเรื่องไฟฟ้าไม่เสถียร นายอุปกิต บอกว่า ทางการเมียนมาจึงอนุญาตให้เขานำไฟฟ้าจากฝั่งไทยไปใช้ได้ ทำให้ชาวบ้านบางส่วนได้ใช้ด้วย และมีการชำระค่าไฟด้วยเงินต่างสกุลกัน รวมทั้งในเงินจากบางส่วนมาจากกลุ่มนายทุนมินลัด ซึ่งยอมรับว่ามีน้อยมาก



และยืนยันว่า ด้วยจำนวนเงินที่โอนมาจำนวนมาก จึงไม่สามารถแยกได้ทั้งหมดว่า มีเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดมาจ่ายค่าไฟฟ้าได้ ช่วงหนึ่ง นายอุปกิต ยกมือสาบาน ว่า ไม่ได้ทำผิดและถูกใส่ร้าย



โดยในช่วงบ่าย นายอุปกิต มอบอำนาจให้นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความส่วนตัว ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ สารวัตรที่รับผิดชอบคดี และผู้เกี่ยวข้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่ศาลอาญา รัชดา ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงิน บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาตอบโต้ และเขาเป็นเหยื่อของเกมการเมือง



ข่าว 3 มิติ ได้สอบถามความเห็น จากพ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวน สน.พญาไท ซึ่งเป็นชุดจับกุมและเป็นผู้ไปขอศาลออกหมายจับที่มีปัญหา ก็ได้รับการ ยืนยันว่า ยืนยันหลักฐานที่ขออำนาจศาลออกหมายจับ เป็นหลักฐานจริง ที่ได้มาจากการสืบสวนขยายผลของตำรวจชุดจับกุม ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่า หลักฐานจะไปเชื่อมโยงถึงใครบ้าง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะขยายผลไปตามขั้นตอน ทั้งหมดมีเอกสารหลักฐานชี้แจงได้

คุณอาจสนใจ

Related News