เปิดหลักฐานนำสู่การออกหมายจับ 'ส.ว.' ด้านอัยการชี้ ล่าช้าเหตุต้องสอบเส้นทางเงินจำนวนมาก

ข่าว 3 มิติ ได้ตามข่าวนี้ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตั้งแต่เริ่มจับขบวนการค้ายาเสพติดไปจนถึงจับนายทุนมินลัต และนำเสนอต่อเนื่อง จนเห็นความเชื่อมโยงกับ ส.ว.คนหนึ่ง



หลักฐานการเชื่อมโยง ทางบัญชีการเงิน ที่มีไม่ต่ำกว่า 500 บัญชี ซึ่งตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ชุดที่ถูกโยกย้ายออกจากสังกัดเดิมในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งล่าสุด ใช้เวลาตั้งแต่ปี 2562 จนถึงกันยายน 2565 ในการรวบรวมพยานหลักฐาน และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของบัญชีม้าที่มีอยู่หลายพันบัญชี ซึ่งกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำมาใช้ ในการโอนจ่ายค่ายาเสพติด เพื่อไม่ให้สืบถึงตัวผู้ค้าตัวจริง



โดยเฉพาะ ผู้ค้ายารายใหญ่ของภาคกลาง คือนายพิทวัส แสงโสภา หรือคิงนนทบุรี มีบัญชีม้าอยู่ในมือจำนวนมาก ได้สั่งให้เครือข่ายยา ทั้งเครือข่ายนายอนุภาพ มูลสาร เครือข่ายนายอริย์ธัช ชูก้าน เครือข่ายนายเอกชัย เอกสารตรา จ่ายค่ายาโดยโอนเงินเข้ามายังบัญชีม้าของนายพิทวัส ที่มีบัญชีม้าในมือ หลังจากนั้นนายคิงจะต้องจ่ายค่ายาไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน



ชุดสืบสวนใช้เวลาสืบ 3 ปี จนเห็นร่องรอยเครือข่ายยาเสพติด ที่ใช้บัญชีม้าโอนเข้ามายังบริษัทอัลลัวร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ขายกระแสไฟฟ้าให้ฝั่งท่าขี้เหล็ก



นอกจากนี้ยังมีบัญชีม้าจากยาเสพติดส่วนหนึ่ง โอนไปจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าโดยตรง ให้กับบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป จากหลักฐานการเส้นทางการโอนเงินจำนวน 500 บัญชี นี้เอง จึงพัวพันกับบริษัทอัลลัวร์ กรุ๊ป ถึงการฟอกเงินจากผู้ค้ายาเสพติดทั้งรายใหญ่ และรายย่อย อย่างน้อย 4 เครือข่าย ที่โอนเงินผ่านเข้ามายังบริษัท และโอนตรงไปจ่ายค่ากระแสไฟฟ้า เป็นความผิดเข้าข่ายการฟอกเงิน และสมคบในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อชุดสืบสวนได้ตรวจสอบว่า บริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป มีใครเป็นกรรมการผู้ถือหุ้น จึงนำไปสู่การออกหมายจับ



นายทุนมินลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา กรรมการผู้ถือหุ้น น.ส.น้ำหอม เลขานายทุนมินลัต / นายดีล ยัง จุลธุระ ลูกเขย สว. / และน.ส.ปิยะดา เลขาของ ส.ว.อุปกิต และนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือเอดดี้ และ น.ส.กัลยวีร์ หรือจอย ภรรยาคนที่ 2 หลังจ่ายเงินสดซื้อบริษัทอัลลัวร์ด้วยเงินสด 300 ล้านบาท



หลังจับกุมได้ 4 คน ส่วนนายพันณรงค์ และ น.ส.กัลยวีร์ หลบหนีออกนอกประเทศเพราะข่าวรั่วไปอยู่ประเทศอังกฤษ



นายทุนมินลัต ให้ข้อมูลว่า สมาชิกวุฒิสภา ยังบริหารและสั่งงานเหมือนเดิมโดยกำไรได้แบ่งให้กับสมาชิกวุฒิสภา โดยมีหลักฐานเป็นการคุยผ่านข้อความแชท มาตลอด และมีหลักฐานการโอนเงิน ส่วน นส.ปิยะดา เลขาของ สว. ยอมรับว่าทำตามคำสั่งของ สว.ทั้งหมด



จนเป็นที่มาของการออกหมายจับ ส.ว. เพราะเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ อีกทั้งสถานะทางสังคมของ ส.ว. ที่ทำธุรกิจต้องมีการตรวจสอบที่มาของแหล่งเงินที่โอนเข้ามายังบริษัทจำนวนมาก



เหตุใดจึงปล่อยให้มีแก๊งผู้ค้ายาเสพติดโอนเงินผ่านบริษัทได้ง่าย โดยไม่มีการตรวจสอบ เพราะหากเครือข่ายยาเสพติด ไม่มีแหล่งฟอกเงิน ก็จะไม่สามารถซื้อขายยาเสพติดได้



ขณะที่นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า อัยการเพิ่งได้รับคำสั่งให้สอบสวนเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ยืนยันคดีไม่ได้ล่าช้า ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนหาข้อมูลสอบอีก 4 ประเด็น และที่ยังไม่ได้ออกหมายเรียก ส.ว.คนดังกล่าวเพราะยังรอตรวจสอบบัญชี 500 บัญชีว่าโอนมาจากแหล่งใด มีบัญชียาเสพติดกี่บัญชี



โดยคดีนี้ ได้มอบหมายให้นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการเป็นหัวหน้าชุดร่วมกับคณะอัยการรวม 9 คน และได้เริ่มทำงานร่วมกับพนักงานสอบสวน ปส.3 แล้ว ส่วนคดีของนายทุนมินลัต รวม 4 คน อัยการได้ส่งสำนวนฟ้องศาลไปแล้ว ใน 3 คดี



คือสมคบเกี่ยวกับยาเสพติด ร่วมกันฟอกเงินจากยาเสพติดและกระทำความผิดนอกราชอาญาจักร โดยจะพิจารณาคดีในชั่้นศาลในเดือนมิถุนายนนี้