สังคม

ตร.ไซเบอร์ ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้า 2 เครือข่าย ยึดของกลางกว่า 80 ล้านบาท

โดย nut_p

11 มี.ค. 2566

87 views

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ เปิดปฎิบัติการบุกเข้าไปทลายโกดัง จับกุม-ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ 2 เครือข่าย มูลค่าของกลางกว่า 80 ล้านบาท



พลตำรวจตรีไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เเถลงข่าวปฏิบัติการบุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อน โดยบอกว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจไซเบอร์ ได้ทำการสืบสวนเเละทราบว่ามีการโฆษณาจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร จึงทำการสืบสวนโดยส่งสายลับเข้าไปล่อซื้อและได้รับสินค้าจริง จนสามารถสืบสวนต่อไปยังต้นทาง ซึ่งเป็นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าเครือข่ายใหญ่จำนวน 2 ราย ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายค้น



สำหรับรายแรก เป็นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ เครือข่าย SUN VAPE อยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้น รวม 3 จุด ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์ ที่เปิดเป็นหน้าร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นที่ส่งของสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์  บ้านพักที่ใช้เป็นออฟฟิศของแอดมินเพจเฟซบุ๊ก และโกดังที่เป็นสถานที่เก็บบุหรึ่ไฟฟ้า



จากการเข้าตรวจค้น พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบต่างๆ พร้อมอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก รวมมูลค่า 50 ล้านบาท และยังสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 2 ราย เป็นลูกจ้างที่ดูแลร้าน ให้การว่า "ได้รับค่าจ้างวันละ 100 บาท และได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้า"



ส่วนรายที่ 2 เป็นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งบนถนนพญาไท แขวงพญาไท เขตราชเทวี จากการเข้าตรวจค้น สามารถยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์หลายรายการ รวมมูลค่า 30 ล้านบาท และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 1 ราย เป็นเจ้าของห้องดังกล่าว



รวมผลการตรวจค้นทั้ง 2 เครือข่าย สามารถยึดของกลางได้รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ถูกดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ฐานนำสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร



พลตำรวจตรีไพโรจน์ ระบุเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นพบเส้นทางของกลาง ถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติ กำลังอยู่ระหว่างการหารือแนวทางการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนตำรวจไซเบอร์ จะมีการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป รวมถึงจะให้ตำรวจพื้นที่เข้าปฏิบัติการทลายกลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่รับซื้อบุหรี่ไฟฟ้าไปกระจายต่อด้วย



ขณะที่ พลตำรวจตรีชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือ ผบช.สอท.1 เปิดเผยว่า สำหรับ"ผู้ที่มีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ครอบครองหรือไว้สูบ ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 246 วรรคหนึ่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ด้วย จึงฝากเตือนสิงห์อมควันบุหรี่ไฟฟ้าว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น นอกจากทำลายสุขภาพแล้ว จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายด้วย"

คุณอาจสนใจ

Related News