เจ้าของรถบรรทุก-คนขับ สารภาพแล้ว ลักลอบนำสารเคมีจากภาชีไปทิ้งที่แก่งคอย

ข่าว 3 มิติยังเกาะติดประเด็นพบการลักลอบทิ้งสารเคมี ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งรถคันนี้ถูกจับได้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดทัั้งคนขับและเจ้าของรถบรรทุก สารภาพวันนี้ว่า นำสารเคมีอันตรายนี้ มาจากโกดังที่อำเภอภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโกดังเดียวกับที่ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ตลอด 3 วันมานี้ และเจ้าของรถบรรทุก ยังสารภาพว่าได้รับการว่าจ้าง จากชายคนหนึ่งที่แสดงตัวว่าเป็นผู้จัดการบริษัทเอกอุุทัย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ที่เพิ่งถูกแจ้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งความดำเนินคดี กรณีเชื่อมโยงกับโกดังเก็บสารเคมีนี้ด้วย


พนักงานสอบสวนภูธรแก่งคอย จ.สระบุรี เชิญตัวคนขับรถบรรทุกสารเคมี คันที่พบในสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมด้วยเจ้าของรถที่นั่งมาด้วยกัน มาสอบปากคำวันนี้ และทั้งคู่ก็สารภาพว่า นำสารเคมีอันตรายมาทิ้งบริเวณดังกล่าวจริง และยังสารภาพว่า สารเคมีที่บรรทุกมานั้น ไปรับมาจากโกดังเก็บสารเคมี ที่อำเภอภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโกดังทีเพิ่งถูกเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายอายัดเมื่อสามวันก่อนตามที่ข่าว 3 มิตินำเสนอ


ผู้กำกับการสภ.แก่งคอย ยืนยันกับทีมข่าวว่า รถบรรทุกคันนี้ ไม่มีใบอนุญาตขนส่งกากของเสียอันตราย ซึ่งเจ้าของรถก็มีความผิดด้วย และเจ้าของรถ ซัดทอดว่าได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่ง ที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานระดับผู้จัดการ ของบริษัทเอกอุทัย โดยได้สนทนากันโดยตรง ให้ว่าจ้างนำสารเคมีเหล่านี้ออกจากโรงงานมาทิ้ง


ตำรวจยังระบุว่าคำสารภาพของเจ้าของรถบรรทุก สอดคล้องกับการตรวจสอบโทรศัพท์คนขับรถ ที่สนทนาทางไลน์ กับชายคนหนึ่ง ซึ่งชายคนนี้ส่งที่อยู่เพื่อให้ออกใบกำกับภาษีของบริษัทเอกอุทัย มาให้คนขับรถเช่นกัน เพื่อใช้ออกใบกำกับภาษีหลังการว่าจ้าง // อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ปรากฎและจะอยู่ในสำนวนคดี กรณีที่พบการทิ้งสารเคมี ในอำเภอแก่งคอย


ข่าว 3 มิติ ยังได้เบาะแสเพิ่มอีกว่า มีรถบรรทุกอีก 1 คัน คลุมผ้าใบที่มีร่องรอยฉีกขาดด้านบนของผ้าใบวิ่งเข้ามาในบริเวณเดียวกันกับที่รถคันแรกถูกจับ แต่วิ่งเข้ามาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ลักษณะพฤติกรรมเหมือนรถบรรทุกสารเคมีคันที่ถูกจับได้ แต่จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง


คำสารภาพจากเจ้าของรถบรรทุกและคนขับที่ระบุว่ารับสารเคมีมาจากโกดังที่อำเภอภาชีนั้น สอดคล้องกับภาพในโกดัง อ.ภาชี ที่ทีมข่าวเข้าไปสำรวจ พบว่าในโกดังหลังที่ 2 มีถังบรรจุของเหลวสีฟ้า ลักษณะวงรีรูปไข่สีฟ้า ปลายถังมีท่อระบายน้ำออก ควบคุมเปิดปิดโดยวาวล์ // ใกล้กับถังบรรจุของเหลวนี้ ก็มีโครงเหล็ก คล้ายกับใช้เป็นโครงประกอบด้านหลังรถบรรทุก เพื่อลำเลียงถังบรรจุของงเหลว


ซึ่งรถของกลางที่ยึดได้ เมื่อมองภายนอกที่มีผ้าใบคลุมอยู่ จะเห็นว่าเป็นโครงเหล็กเหมือนเป็นสี่เหลี่ยม แต่หากเปิดผ้าใบออกด้านใด จะเป็นถังบรรจุของเหลว วงรีรูปไข่ / และปลายถังจะมีท่อระบายของเหลวควบคุมการเปิดปิดด้วยวาวล์เหมือนกัน //ข้อมูลนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่นำมาเปรียบเทียบ และตั้งข้อสังเกตุว่าคำสารภาพของคนขับรถกรณีคดีที่อ.แก่งคอย กับกรณีของกลางที่อายัดไว้ในคดีพบในโกดังที่พบในอำเภอภาชี นั้น เชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร


ข่าว 3 มิติ ยังได้รับการยืนยันจากนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมวันนี้เฉพาะในกรณีโกดัง ที่อำเภอภาชีว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาบริษัทเอกอุทัย จำกัดจริง ในความผิดตาม พรบ.วัตถุอันตราย และพรบ.โรงงาน /โดยหลักฐานคือเอกสารที่เหลืออยู่ในรถบรรทุกสารเคมี ในโกดังนั้นเชื่อมโยงไปถึงบริษัท // และวันศุกร์นี้ จะประสานตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าไปเปิดและตรวจโกดังทั้ง 5 หลังอย่างละเอียด โดยเฉพาะหลังที่ 3 ที่ยังถูกล็อคกุญแจ ก็ต้องใช้อำนาจการยึดอายัด เปิดทั้งหมดเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง / มนตรี รายงาน