สังคม

'เบนซ์ เดม่อน' ยันถึงไทย คืนพรุ่งนี้ - 'บิ๊กก้อง' รับหวั่น 'สารวัตร' โยกย้ายถ่ายข้อมูลสำคัญไปแล้ว

โดย panwilai_c

13 ก.พ. 2566

46 views

คดีพนันออนไลน์ รวมไปถึงคดีการฟอกเงิน วันนี้ มีความเคลื่อนไหวใน 2 คดีสำคัญ คดีแรกคือเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 อีกคดีคือ คดีที่เกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว โดยเฉพาะการตั้งมูลนิธิเถื่อนในนามเป็นต่อกรุ๊ป



เริ่มจากคดีมาเก๊า888 มีรายงานว่าคืนพรุ่งนี้ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร หรือ เบนซ์ เดม่อน พี่คนโต ของครอบครัว 4 บ. ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหา คดีพนันออนไลน์ "มาเก๊า 888" ที่ตำรวจกำลังตามล่าตัว วันนี้นายเบนซ์ เดม่อน ได้ติดต่อผ่าน นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความส่วนตัว เพื่อยืนยันว่า จะเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในเวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง



ทันทีที่มาถึงน่าจะถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวทันที เพราะมีหมายจับ จากนั้นจะประสานส่งตัวให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. มารับตัวไปดำเนินคดีต่อ



นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 คน คือ นายณพมนัส สังขทรัพย์ หรือ มายด์ ที่บินไปฮ่องกงเหมือนกันหลัง ดิว อริสรา ออกมาแฉไม่กี่วัน ซึ่งตำรวจมีข้อมูลว่า "มายด์" เป็นผู้ดูแลเรื่องเงินให้เครือข่ายนี้ เมื่อวันพฤหัสที่แล้วได้ประสานตำรวจว่า จะเข้ามอบตัววันพรุ่งนี้เช่นกัน



สำหรับเครือข่ายมาเก๊า 888 ตำรวจ สอท. เปิดปฏิบัติการถึง 5 ครั้ง ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปูพรมค้นไปกว่า 40 จุด ยึดทรัพย์ได้กว่า 500 ล้านบาท ปิดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง 6 แห่ง ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ 55 หมาย และอยู่ระหว่างหลบหนี 12 หมาย



ขณะที่พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการ สอท. ได้เดินทางไปสอบปากคำ ดิว อริสรา ในฐานะพยาน ที่ไต้หวันแล้ว โดยขึ้นเครื่องไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ มีกำหนดเดินทางกลับวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งประเด็นที่สอบจะเป็นเรื่องของความเชื่อมโยงของ 4 พี่น้องกับเว็บพนัน "มาเก๊า888" และการสอบปากคำ เพื่อให้สำนวนคดีสมบูรณ์ครบถ้วน ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งลงมา



อีกคดีหนึ่งคือ คดีที่เกี่ยวข้องกับเป็นต่อกรุ๊ป และสารวัตรซัว โดยพลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกประชุมคณะทำงานของตำรวจสอบสวนกลาง เกี่ยวกับการจัดทีมตรวจสอบ สารวัตรซัว ว่า ทำเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ ตรวจสอบทรัพย์สินที่ถือครอง ตรวจสอบข้อมูลบริษัทต่างๆ 11 บริษัท ไปจนถึงความเกี่ยวข้องกับบุคคลต่างๆ



โดยตอนนี้อยู่ในขั้นการรวบรวบข้อมูลทุกเรื่อง เพื่อแสวงหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด และเตรียมเชิญ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ซึ่งเป็นผู้เปิดข้อมูลของสารวัตรซัว เข้ามาให้ข้อมูลด้วย



นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่า ค่อนข้างกังวลเพราะสารวัตรซัว มีความชำนาญในเรื่องของไอที หรือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อาจจะโยกย้ายถ่ายข้อมูลสำคัญไปทำลาย แต่เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของทีมงาน เพราะทุกอาชญากรรม ย่อมมีร่องรอย



พร้อมยืนยันว่า หากพยานหลักฐานถึงใครจะเอาหมด ไม่ว่าจะรู้จักกับใคร หรือมียศใหญ่โต ก็ไม่กระทบการสืบสวนสอบสวน รวมถึง กรณีของ "นายพล จ. จาน" และหลานชายอดีต ผบ.ตร. ที่บอกว่าเป็นเพื่อนตำรวจอบรมหลักสูตร นายร้อยรุ่นเดียวกับสารวัตรซัว ด้วย



ส่วนการดำเนินการทางวินัยกับ สารวัตรซัว ที่ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะขาดราชการเกิน 15 วัน เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่า สารวัตรซัว ขาดราชการตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2565 ถึง 19 มกราคม 2566 โดยไม่มีหนังสือลา ก่อนจะมาทำหนังสือขอลาราชการตั้งแต่วันที่ 20 มกราคา 2566 - 30 มกราคม 2566

คุณอาจสนใจ

Related News