ลงพื้นที่สำรวจแหล่งขาย 'บุหรี่ไฟฟ้า' สืบหาข้อเท็จจริง 'ดาบตำรวจ' รีดเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 หมื่น

นอกจากคดีที่ สน.ห้วยขวาง ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ก็มีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ได้ร้องเรียนผ่านมัคคุเทศก์ว่า มีตำรวจ เรียกรับเงินจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน ตำรวจในภาพที่ถูกกล่าวหา ได้ถูกย้ายและวันนี้ได้เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ยังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีแล้ว ขณะที่ย่านพัทยายังมีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าให้นักท่องเที่ยวทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจว่า การซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ผิดกฎหมาย



ภาพนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันจำนวน 3 คน ยืนพูดคุยกับตำรวจ 1 คน โดยนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ได้ส่งข้อมูลผ่านทางสมาคมมัคคุเทศก์จีนว่า เมื่อวานถูกตำรวจรีดไถเงิน 6 หมื่นบาท ลดให้เหลือ 3 หมื่นบาทเพราะนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน 2 คนสูบบุหรี่ไฟฟ้า



หลังจากมัคคุเทศก์จีนนำภาพมาเผยแพร่พฤติกรรมตำรวจ ผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นดาบตำรวจจราจรอยู่ สภ.เมืองพัทยา ช่วงเกิดเหตุประมาณปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยว 2 คนเป็นไต้หวันมาร่วมกับเพื่อนรวม 10 คน และได้ออกจากประเทศไทยไปแล้ว



โดยวันนี้ดาบตำรวจคนดังกล่าวได้ถูกคำสั่งย้ายและมารายงานตัวที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีแล้ว นอกจากนี้จากการเปิดเผยของสมาคมมัคคุเทศก์ยังระบุว่า พัทยาเป็นสถานที่ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ มักถูกรีดไถเงินจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก



เมื่อสอบถามจากผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกดังกล่าว เล่าว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าสูบได้ง่าย เพราะคนขายจ่ายเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่กรรมจะมาตกที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพราะเห็นมีขาย ก็ซื้อมาสูบ เพราะคิดว่าไม่ผิดกฎหมายและเดินสูบตามที่สาธารณะทั่วไป เป็นเหตุให้เมื่อตำรวจบางนายพบเห็นก็เข้ามาหาผลประโยชน์



ทีมข่าว 3 มิติได้สำรวจตามสถานที่ท่องเที่ยว พบว่า ยังมีนักท่องเที่ยวสูบบุหรี่ไฟฟ้าให้เห็น และส่วนใหญ่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นมีขายก็ไม่ทราบมาก่อนว่าซื้อมาสูบแล้วจะผิดกฎหมาย



ปกติบุหรี่ไฟฟ้าถูกวางขายอย่างเปิดเผยในพื้นที่พัทยาโดยไม่ถูกจับ นักท่องเที่ยวเห็นวางขาย จึงไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เมื่อซื้อมา ตำรวจก็จะตามมาจับทันที ที่ห้วยขวางก่อนหน้านี้ ก็มีลักษณะไม่ต่างกับที่พัทยา



วันนี้ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ก็ได้ออกยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้า หากใครมีไว้ในครอบครองมีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี และมีโทษปรับ แต่ตำรวจต้องส่งศาลเท่านั้น ปรับเองไม่ได้



ประเด็นข้อกฎหมาย เป็นที่ชัดเจนว่า ผิดกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ มีคำถามว่า ทำไมตำรวจปล่อยให้วางขายในพื้นที่ จนนักท่องเที่ยวเข้าใจผิด เมื่อหลงไปซื้อ จะตำรวจเข้าตรวจค้นและจับทันที



ช่วงนี้ พอเกิดข่าวดัง ร้านที่เคยวางขาย ทั้งที่ห้วยขวางและพัทยา รวมทั้งอีกหลายพื้นที่ก็หายไปหมด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีวางขายโดยไม่เกรงกลัวตำรวจ แต่ในออนไลน์ ยังมีประกาศขายกันมากมาย