สังคม

สั่งเด้ง 'ด.ต.' เรียกเงินนักท่องเที่ยวคดีจับบุหรี่ไฟฟ้า จาก 6 หมื่น ต่อรองเหลือ 3 หมื่น

โดย panisa_p

31 ม.ค. 2566

74 views

ในวันที่ประเทศไทยตกเป็นข่าวกระจายไปในสื่อต่างประเทศหลายสำนัก จนกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ในประเด็นการรีดเงินจากนักท่องเที่ยวไต้หวัน ล่าสุดวันนี้ สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยพฤติกรรมตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งที่พัทยา ได้เรียกตรวจนักท่องเที่ยวและถูกกล่าวหาว่า รีดเงิน เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีบุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน มีการเรียกรับเงินค่าปรับจากนักท่องเที่ยว จาก 6 หมื่นบาท ลดให้เหลือ 3 หมื่นบาท



โดยภาพแรกเป็นภาพของชายที่สวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนพิงรั้ว พร้อมนักท่องเที่ยว 3 คนยืนคุยอยู่ ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่ซูมบริเวณใบหน้าของชายที่แต่งกายเครื่องแบบตำรวจนายนี้ กรรมการฝ่ายมัคคุเทศก์ภาษาจีน ระบุว่า ข้อมูลที่ได้มา รู้สึกเป็นห่วงภาพลักษณ์ของประเทศ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะกลัวถูกขึ้นศาล จึงทำให้เมื่อประสบปัญหาก็จะยอมจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่



ขณะที่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้ตรวจสอบพบว่าภาพที่ปรากฏเป็นดาบตำรวจ จราจร ของสภ. และได้เรียกมาสอบถามรับว่าเป็นบุคคลในภาพจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้รีดไถเงินค่าบุหรี่ไฟฟ้าจากนักท่องเที่ยว 6 หมื่นบาท ลดให้เหลือ 3 หมื่นบาท ขณะนี้ได้สั่งย้ายออกจากงานจราจร ให้ไปช่วยงานธุรการ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบ



ขณะที่การนำเข้าและการครอบครองบุหรีไฟฟ้าเข้ามายังประเทศไทย โดยบุหรี่ไฟฟ้าแบบพอต จะผิด พรบ.ศุลกากร และหากเป็นไอคอส จะผิด พรบ.สรรพสามิต อีกทั้งยังห้ามขายและห้ามสูบ ซึ่งมีความผิด ตาม พรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ 2560 ด้วย



หากครอบครองก็จะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากมีไว้จำหน่าย ซึ่งมิได้ผ่านศุลกากรอย่างถูกต้อง ต้องโทษไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาสินค้าหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งโทษที่ค่อนข้างหนัก และปรับสูง จึงทำให้นักท่องเที่ยว ที่มีบุหรี่ไว้ในครอบครองยอมจ่าย และเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รีดไถหาผลประโยชน์ เนื่องจากหากทำตามขั้นตอนของกฎหมาย



ตำรวจที่จับกุม ก็จะต้องนำตัวส่งร้อยเวรที่โรงพัก ร้อยเวรก็จะซักถามว่ายินยอมเสียค่าปรับ อากรแสตมป์หรือไม่ หากยินยอมก็จะส่งตัวไปยังศุลกากร เพื่อให้ศุลกากรเปรียบเทียบปรับ หากผู้ถูกจับไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ ร้อยเวรก็จะต้องทำสำนวนส่งฟ้องศาล ซึ่งที่ผ่านมา เรื่องก็มักจะจบที่ด่านแรก เพราะนักท่องเที่ยวมักกลัว และไม่อยากให้ยืดเยื้อ

คุณอาจสนใจ

Related News