สังคม

เผยผลสอบอดีตอธิบดี DSI ให้การย้อนแย้งปมค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู ตร.เร่งสืบหาตัวละครลับร่วมรู้เห็น

โดย panisa_p

27 ม.ค. 2566

55 views

เดิมทีวันนี้พนักงานสอบสวนนัดหมายให้นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงษ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าให้ข้อมูลกรณีเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวของดีเอสไอ ค้นอดีตบ้านพักสถานกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย และร่วมกันรีดทรัพย์กลุ่มจีนเทาในบ้านนั้น แต่ปรากฏว่านายไตรยฤทธิ์ ชิงเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วตั้งแต่เมื่อคืน


และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็เปิดเผยว่า นายไตรยฤทธิ์ ยอมรับว่าแต่งตั้งชุดการข่าวจริง เพื่อให้ไปปฏิบัติราชการ แต่ไม่ใช่ให้ไปปล้นหรือทำผิดกฎหมายใดๆ และไม่ทราบด้วยว่าเงินที่ยักยอกไปอยู่ที่ใด ขณะข่าว 3 มิติ ได้ข้อมูลว่า ตำรวจกำลังตามหาตัวละครลับ ซึ่งเป็นคนที่อยู่วงใน ที่น่าจะรู้เบาะแสในบ้านหลังนั้น ก่อนจะชี้เป้าให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเข้าตรวจค้น




ข่าว 3 มิติ ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวว่า ตำรวจกำลังพยายามสืบหาตัวละครลับ ซึ่งน่าจะเป็นผู้คนที่รู้ความเคลื่อนไหว หรือเคยรู้เห็น หรืออย่างน้อยเคยอยู่ในบ้านพักหลังนี้ ที่อดีตกงสุลประเทศนาอูรูประจำประเทศไทยเคยเช่าที่นั่นมาก่อน ก่อนที่จะย้ายออกไปแล้วมีกลุ่มคนจีนที่มีหมายจับตำรวจสากลเข้าไปอยู่ต่อ



สาเหตุที่ตำรวจเชื่อว่า มีตัวละครลับในกรณีนี้ เพราะน่าจะรู้เบาะแสกลุ่มจีนเทาว่ามีเงินสดเก็บสะสมอยู่เท่าใด และเวลาใดที่เหมาะจะเข้าตรวจค้น อีกทั้งตัวละครลับนี้ น่าจะเป็นคนที่ไปประสานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอชุดการข่าว ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว เพื่อให้เข้าตรวจค้นในวันดังกล่าว



ข้อมูลที่ข่าว 3 มิติ ได้มา สอดคล้องกับที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าพบความผิดปกติหลายส่วนของสถานกงสุลนาอูรู เพราะมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงทำงานอยู่ในสถานกงสุลนาอูรูมาเกือบ 20 ปี เป็นคนติดต่อให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว และหลังจากนั้นก็ยังประสานให้ดีเอสไอ 3 คน ไปค้นห้องพักในคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง ของอดีตกงสุลนาอูรู และครอบครัว โดยไม่มีหมายค้น แต่มีเจ้าหน้าที่หญิงคนเดิมของสถานกงสุลนาอูรู เป็นผู้ประสานกับนิติบุคคลของคนโดให้เข้าค้นได้ ส่วนทรัพย์สินที่ได้จากการค้น ทราบว่าเป็นพระเครื่อง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ



เมื่อคืนนี้นายไตรยฤทธิ์ ได้ชิงเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลก่อนเวลานัดหมาย จากเดิมนัดให้เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ โดยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เปิดเผยผลสอบสวนเบื้องต้นว่า นายไตรยฤทธิ์ ยอมรับว่าเป็นคนลงนามแต่งตั้งชุดการข่าวดังกล่าว เพื่อไปปฏิบัติงานราชการ แต่ไม่ได้สั่งให้ไปทำการปล้น หรือทำสิ่งทุจริต และไม่รู้รายละเอียดในบ้านหลังนี้ อีกทั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ชุดปฏิบัติงานดังกล่าวก็ไม่ได้รายงานให้นายไตรยฤทธิ์ทราบ



ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่าคำให้การของเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวของดีเอสไอ กับคำให้การของนายไตรยฤทธิ์ไม่ตรงกัน เพราะชุดการข่าวยืนยันว่าได้รายงานให้นายไตรยฤทธิ์ทราบหลังจบภารกิจ เช่นเดียวกับคำให้การของ ผอ.กองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ ที่เป็นหน้าห้องของนายไตรยฤทธิ์ ก็สอดคล้องกับคำให้การของ ผอ.ส่วนกลั่นกรองและการข่าวคดีพิเศษ ที่ลงพื้นที่ทำงานดังกล่าว มีเพียงคำให้การของนายไตรฤทธิ์ที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ



พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุว่า ยังหาเบาะแสของเงินทั้ง 9,500,000 บาท ที่ถูกขูดรีดไปไม่ได้ แต่เชื่อว่าถูกแบ่งกระจายไปแล้ว แต่จะมากน้อยแตกต่างกัน และยืนยันว่าไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ ต่อนายไตรยฤทธิ์ เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง

คุณอาจสนใจ