ย้อนแผนประทุษกรรมคดีเผาสวนงู โยงเครือข่าย 'ตู้ห่าว' หลายฝ่ายร้องรื้อคดีอีกครั้ง

นอกจากข้อหาสมคบค้ายาเสพติด เเละความผิดที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ "นายตู้ห่าว" ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้อง ก็คือคดี "ร่วมกันพยายามฆ่า-วางเพลิงเผาสวนงูของนายทุนจีนที่ภูเก็ต หลังถูกผู้ต้องหาให้การซัดทอด อ้างว่านายตู้ห่าวเเละภรรยาเป็นคนจ้างวาน เเต่คดีนี้พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เเม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานถึง 10 ปีเเล้ว เเต่ก็ยังเป็นที่เคลือบเเคลงสงสัย "อะไรคือเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้อง"



หลายฝ่ายจึงเรียกร้อง ขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอรื้อคดีกลับมาพิจารณาอีกครั้ง หลังทราบข่าวว่ารปภ.ที่ถูกรุมทำร้ายสาหัสจนเกือบพิการ หวาดระเเวงเเละยังไม่ได้รับการเยียวยา



จากสวนงูภูเก็ตที่เคยคึกคัก ปัจจุบันกลับมีสภาพรกร้าง ไม่พบความเคลื่อนไหวมานานหลายปีเเล้ว ย้อนกลับไป 23 เมษายน 2555 เวลาประมาณ 2 นาฬิกา คนร้ายปีนกำเเพงบุกเข้ามาจับรปภ.ในป้อม ใช้เชือกมัด รุมตี ทุบศรีษะหลายครั้ง ก่อนจะงัดเข้าไปในอาคาร ราดน้ำมัน-จุดไฟเผา



พันตำรวจเอกเผด็จ งามละม่อม ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เล่าย้อนเหตุการณ์ในขณะนั้น คนร้ายบุกเข้ามาอย่างอุกอาจ เเละโหดเหี้ยม การสืบสวนของตำรวจกองปราบ ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้กำกับการกอง 1 พบว่า คนร้ายใช้รถยนต์สีดำ ข้อมูลจากพยานเวลานั้น พบมากัน 3 คน



ในจำนวนนี้มี 1 คน ที่รปภ.จำได้เเม่น จุดสังเกตคือหัวล้าน ตำรวจตามเเกะรอย ขออนุมัติศาลออกหมายจับ 2 คน ตามจับได้คนเเรก คือนายสุวรรณ ทองเพิ่มพลอย อีกคนชื่อนายยุทธนา ให้การซัดทอดไปที่ 2 สามีภรรยา เป็นคนจ้างวานจำนวน 3 หมื่นบาท ระบุชื่อนายหาวเจ๋อตู้ หรือตู้ห่าว อีกคนเป็นตำรวจอำนวยการ คือสารวัตรหนูนา ภรรยาของตู้ห่าว



เหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2555 ตุลาคมปีเดียวกัน ตำรวจภูธรภาค 8 ขอศาลออกหมายจับ 2 คน พฤษภาคมปีถัดมา พนักงานสอบสวนสภ.ฉลอง สรุปสำนวนส่งอัยการ จนกระทั่งมกราคม 2559 กองปราบจับนายสุวรรณ ผู้ต้องหาคนที่ 1 ส่งฟ้อง เดือนถัดมา ผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมกับกองปราบ กรกฎาคมปีเดียวกัน กองปราบส่งรายงานการสืบสวนขยายผลทางคดีให้สภ.ฉลอง ทำสวนหลายร้อยหน้าจน 16 กุมภาพันธ์ ปี60 ศาลชั้นต้นยกฟ้องนายสุวรรณ เเละ 27 กุมภาพันธ์ ปี 62 ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ส่วนคดีจ้างวานของตู้ห่าวเเละภรรยา พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง



ท่ามกลางข้อสงสัย เพราะเเม้เเต่ในคดีพยายามฆ่าลอบวางเพลิง อัยการซึ่งเป็นทนายความของฝ่ายโจทก์ขณะนั้น ก็ไม่ได้เรียกหรือเบิกตัวทีมสืบสวนขึ้นสืบพยานในชั้นศาลเเม้เเต่คนเดียว เเม้จะมีความเห็นเเย้งส่งถึงอัยการสูงสุดเเล้ว เเต่ที่สุดเมื่อปี 2563 อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาด คือไม่ฟ้อง



ปลายปี 2565 ชื่อของตู้ห่าว ถูกพูดถึงอีกครั้งจากคดีผับจินหลิง เชื่อมโยงกลุ่มจีนเทา ก่อนที่นายชูวิทย์ จะเปิดโปงหลักฐานโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างนายตู้ห่าวกับนักการเมือง เเละคนมีสี เเละคดีเผาสวนงู ก็กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง



ล่าสุดตำรวจกองปราบ ตามจับผู้ต้องหารายที่ 3 คือนายสุรชัย คนเดียวกับที่รปภ.จำได้ ลักษณะคือหัวล้าน หนีมากบดาน ย่านเขตดุสิต กรุงเทพฯ หลายฝ่ายจึงเรียกร้องขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐเเละรื้อคดีนี้อีกครั้ง หลังพบว่าผู้เสียหายคือ รปภ.ซึ่งบาดเจ็บเกือบพิการ เเละไม่ได้รับความเป็นธรรม