รวบเพิ่มอีก 1 มือเผาสวนงู จ.ภูเก็ต ทุบ รปภ.พิการ พบหนีหมายจับนาน 10 ปี ซัดทอด 'ตู้ห่าว' อยู่เบื้องหลัง

คดีเผาสวนงู เมื่อปี 2555 เป็นอีกคดีที่กำลังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมว่า การสั่งไม่ฟ้องของอัยการเจ้าของคดีในขณะนั้นชอบหรือไม่ ขณะที่ก่อนหน้านี้หลายส่วนออกมาเรียกร้องให้อัยการสูงสุดเรียกสำนวนคดีกลับมาทบทวนใหม่ เพราะเป็นอีกคดีที่เชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว และภรรยา ตามคำให้การซัดทอดของผู้ต้องหา 2 คนที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ และยังคงมีผู้ต้องหาในคดีนี้อีก1 คนที่หลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตนานถึง 11 ปี ล่าสุดปรากฏว่า ตำรวจกองปราบปราม สามารถแกะรอยจนจับผู้ร่วมก่อเหตุรายที่ 3 ได้แล้ว ขณะหลบหนีมาอยู่ในกรุงเทพฯ



ตำรวจกองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วยตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน แถลงผลร่วมกันจับกุม นายสุรชัย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ความผิดฐาน "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์" ได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ



โดยคดีนี้ เกิดเหตุเมื่อกลางดึกวันที่ 23 เมษายน 2555 กลุ่มคนร้าย บุกเข้าไปเผาสวนงู ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ของบริษัทแห่งหนึ่ง กลุ่มคนร้ายได้จับพนักงานรักษาความปลอดภัย มัดมือมัดเท้าและทุบศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ 2 คน ส่วนอีกคนหลบหนีไป



พฤติการณ์ของคดีนี้ คือ หลังจากที่ตำรวจจับผู้ต้องหา 2 รายได้ ก็ให้การซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือนายตู้ห่าว และภรรยา ให้มาก่อเหตุ ทางตำรวจจึงเชิญทั้ง 2 คนมารับทราบข้อหากล่าวหา ฐานจ้างวานใช้และพยายามฆ่าผู้อื่น วางเพลิงและเผาทำลายทรัพย์สินผู้อื่น ก่อนที่จะอัยการจังหวัดภูเก็ตขณะนั้นสั่งไม่ฟ้อง



ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 3 หลังจากนี้ตำรวจจะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.ฉลอง จังหวัดภูเก็ตต่อไป ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นให้มีการรื้อฟื้นคดีกลับมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง



ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยา และพวก ซึ่งได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับ มีพฤติการณ์ข่มขู่พยานเป็นความจริง จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนทำเรื่องพร้อมนำหลักฐานยื่นต่อศาลเพื่อขอเพิกถอนการประกันตัวผู้ต้องหาแล้ว แต่ทางศาลยังให้โอกาสไม่เพิกถอนประกันตัวชั่วคราว จากนี้พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบพฤติการณ์ผู้ต้องหาทุกคนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานหากพบการข่มขู่ยุ่งเหยิงพยานก็จะยื่นเพิกถอนประกันทันที



ส่วนความคืบหน้าของคดีหลังจากพนักงานอัยการรับสำนวนสอบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว วานนี้มีการสอบพยานล่วงหน้าหนึ่งปากเป็นพยานชาวจีน ซึ่งระหว่างนี้จะทยอยเรียกสอบพยานล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง และยังมั่นใจในพยานหลักฐานที่ตำรวจได้รวบรวมว่าสามารถเอาผิดตัวแกนนำในคดีนี้ได้อย่างแน่นอน