สังคม

รู้ตัวแล้ว ตัวการแก๊งตั้งโต๊ะเก็บหัวคิวทำบัตรต่างด้าว พบเอี่ยวนักการเมืองท้องถิ่น

โดย panwilai_c

20 ม.ค. 2566

83 views

หลังจากข่าว 3 มิติ เปิดโปงพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเข้าไปตั้งโต๊ะเรียกรับเงินค่าหัวคิวการทำบัตรแรงงานต่างด้าว หรือ บัตรสีชมพู ที่บริเวณสำนักบริหารงานการทะเบียน ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรียกค่าหัวคิวรายละ 300-400 บาท โดยไม่มีใบเสร็จ และไม่เกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมของราชการที่มีอยู่แล้ว คนละ 80 บาท



ปรากฏว่า วันนี้ มีโทรศัพท์จากชายคนหนึ่ง โทรไปหาผู้เสียหาย พูดในทำนองขอให้หยุดเอาเรื่องไปร้องเรียน ขณะเดียวกันทางปลัดอำเภอสันทราย ซึ่งเป็นผู้ที่ไปพบเห็นพฤติกรรมการเรียกหัวคิวดังกล่าวด้วยตัวเอง ก็นำผู้เสียหายอีกกลุ่มพร้อมหลักฐานไปพบตำรวจเพื่อรับไปสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง



การเจรจาของชายคนหนึ่ง ที่โทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย พยายามให้ผู้เสียหายรายนี้ หยุดเดินหน้าร้องเรียน กรณีที่ถูกเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวทำบัตรแรงงงานต่างด้าว บางช่วงของการพูดคุย มีการกล่าวถึงบุคคลที่ 3 ไม่น้อยว่า 2 คน ซึ่งน่าจะเป็น เป็นคนที่ปรากฏในภาพ วันที่ตั้งโต๊ะเรียกรับเงินค่าทำบัตรแรงงานต่างด้าว



และช่วงสาย นายบุญฤทธิ์ นิปวณิช ปลัดอำเภอสันทราย พร้อมกับผู้เสียหาย เดินทางไปที่สถานตำรวจภูธรดอยสะเก็ด เพื่อมอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่เรียกเก็บค่าหัวคิวและหลักฐานแวดล้อมต่างๆให้กับตำรวจ โดยเฉพาะ ตัวการสำคัญ



ปลัดอำเภอสันทราย เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในสำนักงาน เบื้องต้นพบว่า การตั้งโต๊ะเรียกรับเงินค่าทำบัตรแรงงานต่างด้าว มีการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวข้อง



ทางด้าน พ.ต.อ. ธงชัย กรรณิกา ผู้กำกับการสภ.ดอยสะเก็ด ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน ที่ชัดเจนคือ เจ้าของบัญชีรับโอน ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วยก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย



ข่าว 3 มิติ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับตัวการใหญ่ที่เป็นคนนำโต๊ะมาตั้งเรียกเก็บค่าหัวคิว พร้อมกับนำการ์ด มาคุมพื้นที่ด้วย มีชื่อเล่นว่า ปิงปอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อและ นามสกุลจริงแล้ว



ส่วนการจัดทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ครั้งนี้ เป็นการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 18 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 โดยมีระยะเวลาไปถึง 13 กุมภาพันธ์ นี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ