สังคม

ตร.ดำเนินคดี 'แยม ธมลพรรณ์' และสามี เตรียมวางแนวทางคดีคล้ายเสี่ยโป้ ยึดทรัพย์-จำคุกกว่า 50 ปี

โดย parichat_p

17 ธ.ค. 2565

770 views

หลังจากตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ จับอดีตนักแสดงร่วมสามี เปิดเว็บพนันออนไลน์ และเว็บลามก พร้อมยึดทรัพย์หลายรายการมูลค่านับพันล้านบาท จากนี้ เตรียมวางแนวทางคดีคล้ายกับคดีของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ที่ศาลได้ตัดสินจำคุก 50 ปีกับ 48 เดือน ตามมูลฐานความผิด นอกจากนี้ตำรวจ จะใช้กฎหมายฟอกเงินยึดทรัพย์ของน.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม และสามี ที่ไม่สามารถสำแดง ที่มาของรายได้ได้ ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน คาดว่าจะกระทำผิดหลายร้อยกระทง และจะมีการออกหมายจับบัญชีม้าเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 5 คน


การลักลอบเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินในกลุ่มผู้ต้องหา จะเห็นถึงเงินที่โอนเข้าบัญชีม้าและถอนกลับมาเป็นเงินสด เพื่อนำมาฟอกเงิน เป็นอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านหรู คฤหาสถ์ รถซุปเปอร์คาร์ ของใช้แบรนเนมด์ นับเป็นร้อยไปจนถึงหลายพันล้าน


จากการเข้าตรวจค้นคฤหาสถ์หรู เนื้อที่กว่า 1ไร่ ของนายภูมิพัฒน์ อายุ 42ปี และนส.ธมลพรรณ์ หรือแยม อายุ 40ปี ทำให้เห็นของกลางจำนวนมากที่ได้มาจากการะทำผิด ทั้งคฤหาสถ์ 4 หลัง ราคา 400 ล้านบาท รถซุปเปอร์คาร์ 13 คัน ราคาตั้งแต่ 20 ล้านจนถึง 50 ล้าน นาฬิกา หรูมีเรือนละกว่า 20 ล้านบาท 8 เรือน กระเป๋าแบรนเนมด์ 50 ใบ สมุดบัญชี 44 เล่ม จากบัญชีลูกค้าผู้เล่นพนันกว่า 4 หมื่นราย โดยให้ผู้ทำหน้าที่ตระเวนกดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็ม 400 ล้านบาท นำใส่กระเป๋าเดินทาง มาส่งให้กับนายภูมิพัฒน์และนส.ธมลพรรณ์ ที่นั่งรถอยู่ในรถตู้


แต่จาการตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีเงินได้ย้อนหลัง ของผู้ต้องหา ไม่พบแหล่งที่มาของรายได้อื่นที่เพียงพอในการซื้อทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการนำเงินที่ได้จากการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดจากการฟอกเงิน ไปซื้อทรัพย์สินอันเป็นลักษณะการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สิน


พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าจากหลักฐานเส้นทางการเงิน ซึ่งตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามพฤติกรรมของสองสามีภรรยา ที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก โดยนายภูมิพัฒน์ตั้งแต่ปี 2559 เปิดเว็บไซค์รับสมาชิกชมภาพยนต์ลามกผ่านระบบอินเตอร์เน็ทมีรายได้เดือนละ 3 ล้านบาท ต่อมาทำหน้าที่เป็นเจ้าของเว็บไซค์พนันออนไลน์ 8 เว็บไซค์ เป็นโปรแกรมเมอร์เอง รายได้จึงเพิ่มขึ้นเดือนละกว่า 200 ล้าน ช่วงบอลโลกหมุนเวียนสะพัดถึงเดือนละ7พันล้านบาท


การยึดทรัพย์ตาม พรบ.ฟ้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นับเป็นมาตรการที่นำมาใช้กับผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นความผิดมูลฐานทางคดียาเสพติด ค้ามนุษย์ ฉ้อโกง การพนัน


โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สอบสวนกลางได้เปิดปฏิบัติการshutdown กาแล็คซี่ จับนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ อายุ 30ปี ในข้อหาจัดให้มีการเล่น โฆษณาชักชวนให้เล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกศ์ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลได้ตัดสินให้เสี่ยโป้ จำคุกถึง 50 ปี 48 เดือน โดยพรบ.ฟอกเงิน มีความผิดถึงกรรมละ 10ปี


โดยคดีเสี่ยโป้ ชักชวนเล่นพนันออนไลน์-ฟอกเงิน พบหลักฐานมีการรับโอน-รับพนันกว่า 5 แสนครั้ง เป็นเงิน 1,760 ล้านบาท แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงลงโทษได้ไม่เกินเพดานโทษจำคุก 20 ปี


ขณะที่นายภูมิพัฒน์ และนส.ธมลพรรณ์ ก็ต้องโทษในข้อหาเดียวกัน เฉพาะหลักฐานในช่วงเมษายนถึงเดือนกันยายน2565 ที่ผ่านมา นายภูมิพัฒน์ได้ควบคุมสั่งการให้มีการถอนเงินสดจากบัญชี 38 ครั้งซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานฟอกเงิน หากเป็นความผิดลักษณะเดียวกัน ทำผิดเป็นปกติธุระซ้ำซาก มีการซุกซ่อน ถ่ายเททรัพย์สินแปรสภาพ 1 ความผิดมูลฐานถือเป็น1กรรม โดยขณะนี้นอกจาก 44 บัญชีของนายภูมิพัฒน์และ นส.ธมลพรรณ์แล้ว คาดว่าจะมีบัญชีม้าอีกหลายสิบบัญชี โดยตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว 5 ราย แต่คาดว่าจะมีบัญชีม้ามากกว่า 5 รายแน่นอน

คุณอาจสนใจ