สังคม

ป.ป.ช.-ป.ป.ท. แกะรอยปมวิศวกรปลิดชีพเซ่นระบบโกง เร่งหาความจริงเป็นตามจม.หรือไม่

โดย panwilai_c

28 พ.ย. 2565

220 views

ปมการตัดสินฆ่าตัวตายด้วยการรมควันตัวเองภายในรถของนายช่างโยธาธิการ ประจำเทศบาลตำบลนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อวานนี้ วันนี้หลายหน่วยงานได้เร่งตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้ เขียนจดหมายด้วยลายมือทิ้งไว้ 3 แผ่น ที่ระบุถึงปัญหาการทุจริตงบประมาณก่อสร้างหลายโครงการในที่ทำงาน และถูกกดดันให้กินตามน้ำ ที่ทำกันมานาน จนไม่สามารถทนรับได้



ร่างของนายภาณุเมศวร์ วาสโสหา วิศวกรโยธาปฎิบัติการประจำเทศบาลตำบลนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ที่เสียชีวิตจากการรมควันตัวเองภายในรถ ที่จังหวัดขอนแก่น ญาติได้เดินทางรับกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่จังหวัดอุดรธานีบ้านเกิดแล้ว ส่วนผลการตรวจค้นในรถของผู้เสียชีวิต ตำรวจ พบ จดหมายเขียนด้วยลายมืออยู่ในกระเป๋าสะพาย จำนวน 3 แผ่น



เนื้อหาระบุถึง การทุจริตหลายโครงการของเทศบาลตำบลนากลางค่อนข้างละเอียด ทั้งขั้นตอนการประมูล จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่จะต้องได้รับ ทั้งค่าวัสดุ ค่าป้าย ค่าคุมงานจนถึงค่าเซ็นต์รับงานทั้งที่ไม่ได้คุณภาพ



ส่วนหนึ่งของจดหมาย ยังเขียนว่า ถนนสายเพชรสุวรรณ 6 ผู้รับเหมา เทเสร็จแล้ว แต่ถนนทั้งร่อนและแตก ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะระบบที่สร้างกันมา เหมือนต้องผลักดันงาน ให้ผ่าน แต่เมื่อมีปัญหาคุณภาพ กลับกลายเป็นพูดอะไรไม่ได้ ตัดสินใจไม่ได้ ที่ต้องไปเอาตังค์มาเคลียร์ให้กรรมการตรวจรับใหม่ ซึ่งไม่อยากทำ นอกจากนี้ยังมีระบุว่ามีหลายโครงการที่ได้งานไป กลับเป็นผู้ประกอบการรายเดิมๆ ซึ่งทำให้นายช่างไม่ต่างจากการเป็นผู้ผลิตเงินให้ผู้บริหารและนักการเมือง



วันนี้นายทวีศักดิ์ จันทะศรี นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.นากลาง ซึ่งถูกพาดพิงในจดหมายดังกล่าว เดินทางไปร่วมงานศพด้วย พร้อมยืนยันว่าทุกโครงการเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบได้



ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ปปช.ภาค 4 ได้ไปตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ยอมรับว่า ในจดหมายมีการเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีความชัดเจน



นอกจากนี้เลขาฯป.ป.ช. ยังบอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นหากพบว่ามีการทุจริต มีการฮั้วประมูลกัน เรียกรับเงิน จะมีความผิดตามตำแหน่งหน้าที่ราชการ โทษตามกฎหมาย ป.ป.ช.ค่อนข้างรุนแรง สูงถึงขั้นประหารชีวิต เอกชนที่มาร่วมขบวนการก็จะเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนด้วย



กรณีการจบชีวิตตัวเองของนายช่างโยธาธิการ ประจำเทศบาลตำบลนากลาง จ.หนองบัวลำภู นำมาซึ่งการตื่นตัวตรวจสอบของทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น สำนักงาน ปปท. หรือ ปปช.ที่ ขณะนี้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามคำกล่าวอ้างในจดหมายของผู้ตายหรือไม่ โดยเฉพาะวันนี้ที่ถือได้ว่าเริ่มตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนน หนึ่งในหลายสาย ที่ผู้ตายรับผิดชอบ



โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ซอยเพชรสุวรรณ 6 ตำบลนากลาง อ.นากลาง ที่เห็นนี้ เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างถนนที่นายภาณุเมศวร์ วาสโสหา วิศวกรโยธา ประจำเทศบาลตำบลนากลาง เอ่ยถึงในจดหมายที่เขาเขียนเพื่อก่อนจบชีวิตลง



ผู้ได้รับการก่อสร้างถนนนายนี้เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดวีรวุฒิคอนกรีต จำกัด วงเงินงบประมาณตั้งไว้ 650,000 บาท ราคากลางค่าก่อสร้างเฉลี่ย 647,112 บาท ส่วนวงเงินค่าก่อสร้างตามที่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง 413,000 บาท



ตามข้อมูลนี้ ผู้ควบคุมงาน คือนายภาณุเมศวร์ วาสโสหา ตำแหน่งวิศวกรโยธาปฎิบัติการ ในจดหมายดังกล่าวระบุว่าถนนเส้นนี้ได้เทคอนกรีตเย็นภายหลังมีเรื่องร้องเรียนว่ามีการชำรุดแล้ว จึงใช้ซีเมนต์ฉาบปิดร่องรอยไว้



ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการฉาบคอนกรีตบนผิวถนนจริง ประมาณ 5 จุด แต่มีจุดใหญ่ๆที่ กว้างอยู่ 2 จุดที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ



และเมื่อเย็นวันนี้ นายไพรัตน์ ปัจจะวงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1 ปปท.ภาค 4 พร้อมคณะลงตรวจพื้นที่ พร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้1 สัปดาห์สำนักงานปปท.ภาค 4 ได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องการก่อสร้างทางระบายน้ำเสริมผิวจราจรถนน โครงการหนึ่งซึ่งส่อว่าจะมีการทุจริต จนเมื่อวานที่มีประเด็นจดหมายเปิดโปงดังกล่าวจึงผนวก2เรื่องเข้าด้วยกันและตรวจสอบวันนี้



ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ปปท.ภาค 4 ระบุว่าได้ตรวจเอกสารเบื้องต้นแล้ว ผู้ตายรับผิดชอบ 3 โครงการ แต่ยังไม่มีการเซ็นรับงาน มีเพียงฝ่ายผู้รับจ้างส่งมอบงานมา อย่างไรก็ตามการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่ามีร่องรอยของการ จับผิวถนนจริงตามที่ผู้ตายเขียนไว้ ซึ่งยืนยันว่าจะตรวจสอบด้วยความเป็นธรรม



ขณะที่นายกเทศมนตรีตำบลนากลาง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวที่ไปตรวจสอบถามเรื่องการทุจริตตามจดหมายหรือ โดยระบุทำนองว่าเขาเข้ามาเพื่อจะปราบปรามการทุจริตที่มีมานาน



ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ปปท.ภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามโครงการที่ถูกเอ่ยถึงในจะหมาย ส่วนเลขาธิการ ปปช.ก็ระบุว่า ปปช.ภาค 4 ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ยืนยันว่าหากพบการทุจริตเรียกรับเงินมีโทษสูงถึงประหารชีวิต และขอให้ข้าราชการเข้มแข็งเพราะมีกฎหมายคุ้มครองเจ้าหน้าที่

คุณอาจสนใจ