ปชช.แห่ลอยกระทงคืนจันทรุปราคา ที่สะพานพระราม 8 กันอย่างหนาแน่น

คืนวันเพ็ญเดือน 12 ในเทศกาลลอยกระทงที่สะพานพระราม 8 มาพร้อมกับปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง โดยปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการจัดงานเทศกาลหลังสถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แต่ยังคงมาตรการความปลอดภัยที่บูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เพื่อสร้างเป็นโมเดลของการตัดงานในครั้งต่อๆ ไป


งานลอยกระทงของกรุงเทพมหานครที่สะพานพระราม 8 วันนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี จากประชาชนที่ทยอยเดินทางมาลอยกระทงกันอย่างหนาแน่น ภายใต้มาตรการดูแลความปลอดภัย ของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เช่น กรุงเทพมหานคร ตำรวจน้ำ ตำรวจนครบาล กรมเจ้าท่า และอาสาสมัครมูลนิธิ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุฉุกเฉิน และ ไม่ให้มีการนำอาวุธ หรือ ดอกไม้ไฟเข้ามาภายในงาน โดยปิดพื้นที่ตั้งแต่เชิงสะพานพระราม 8 มาจนถึงริมน้ำเพื่อจัดงาน

สำหรับงานลอยกระทงในค่ำคืนนี้ ก็มีปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วย โดยจะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ แล้วหลังจากนั้นจะเริ่มเห็นดวงจันทร์ปรากฏเว้าแหว่งบางส่วน รวม 85 นาที ถือเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ครับ หากพลาดไปก็ต้องรอไปอีกถึง 3 ปีด้วยกัน


นายขจิต ชัชวาณิชย์ปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุว่า งานลอยกระทงของกรุงเทพมหานครในปีนี้ก็ยังคงแนวคิดการใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ 1 ครอบครัว 1 กระทง เช่นเดียวกับทุกปีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการจัดงานแสดงศิลปะวัฒนธรรม และ สินค้าท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงฟื้นฟูหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19


กระทงที่จำหน่ายกันในปีนี้ครับส่วนใหญ่เป็นวัสดุธรรมชาติจากเปลือกข้าวโพด กาบหมาก ใบลาน และบางส่วนก็เป็นขนมปังหรืออาหาร ที่ย่อยสลายได้ง่าย แต่ก็ยังพบเห็นการตกแต่งด้วยพลาสติกตุ๊กตาเป็นจำนวนมาก


ซึ่งคนขายคนนี้ขายกระทงเป็นประจำทุกปี เขาเล่าว่าลูกค้าส่วนใหญ่หันมาเลือกซื้อกระทงที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นเช่นเดียวกับของร้านนี้ที่ขายดีจนแทบทำกระทงไม่ทัน ซึ่งกระทงจากกาบหมากของร้านนี้ทำง่ายมากและเป็นวัสดุธรรมชาติทั้งหมดด้วย ในราคาย่อมเยาว์


ส่วนการจัดเก็บขยะและกระทงต่างๆ ทางกรุงเทพมหานครก็ได้เริ่มภารกิจแล้วตั้งแต่ช่วง 2 ทุ่มที่ผ่านมา โดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้จัดเจ้าหน้าที่เก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงสะพานพระราม 9 รวมระยะทาง 15 กิโลเมตร เช่นเดียวกับที่สวนสาธารณะ 33 แห่ง ที่เปิดให้ประชาชนลอยกระทง หลังจากดำเนินการคัดแยกแล้ว จะนำกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติส่งเข้าโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุชและศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ส่วนกระทงโฟมจะนำไปกำจัดโดยการฝังกลบอย่างถูกวิธี


การลอยกระทงในแต่ละปีมีสถิติที่น่าสนใจ เมื่อประชาชนส่วนใหญ่หันมาใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติมากขึ้นถึงกว่า 97% เหลือกระทงโฟมเพียง 3% เท่านั้น ทำให้ระยะ 4 ปีที่ผ่านมา จากการรณรงค์ 1 ครอบครัว 1 กระทง ก็มีจำนวนกระทงลดลงในทุกๆ ปี จากกว่า 840,000 กระทงในปี 2561 เหลือ 492,000 กระทงในปี 2563 และปี 2564 ที่ผ่านมาเหลือเพียง 403,235 ใบเท่านั้น