เปิดเบื้องหลัง 'อาหยง' นายทุนจีน บอสคอลเซ็นเตอร์ ลวงคนไทยเป็นสแกมเมอร์

ตำรวจสอบสวนกลางจับโปรโมเตอร์มวยสัญชาติจีน ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์รายใหญ่ ชักชวนคนไทยลักลอบข้ามแดน ไปหลอกลวงลงทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หากเหยื่อไม่ทำตามจะถูกขังห้องดำ และถูกกระทำทารุณ ขณะที่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ



เบื้องหน้าของนายหวง เทียนหยง หรือ "อาหยง" สัญชาติจีน เป็นที่รู้จักกันในกลุ่มโปรโมเตอร์มวยเปิด ค่ายมวยชื่ออาหยงยิม มาประมาณ 6-7 ปี มีนักมวยในสังกัดนับสิบคน แต่ยังไม่ถึงระดับมีชื่อเสียง แต่ในแวดวงมวยแล้ว เป็นที่รู้จักกันดี เพราะนำมาชกในโปรแกรมต่างๆ ส่วนตัว "อาหยง"นั้นก็เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันหลายแมตซ์ และมีการชกล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ถูกจับกุม ทำให้ไม่มีใครคิดว่า จะมีเบื้องหลังเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ด้วย



โดยถูกตำรวจสอบสวนกลาง และปคม.จับได้ที่ลานจอดรถสนามมวยแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา หลังอยู่ในขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ลักลอบพาคนไทยไปทำงานฝั่งเมืองเมียวดี



โดยวิธีการหลอกลวงจะ ผ่านทางโซเชียลมีเดียร์ ประกาศรับสมัครงาน รายได้ดี เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะมีขบวนการลักลอบพาข้ามแดน เส้นทางธรรมชาติ ที่อำเภอแม่สอด จ.ตากแล้วพาข้ามไปประเทศเมียนมา จากนั้นต้องทำงานปลดหนี้ โดยใช้แอปทินเดอร์ พูดคุยหว่านล้อม หลอกให้รักก่อน พอเหยื่อตายใจ ก็ชักชวนให้ลงทุนในบิทคอยน์ แต่อาหยง ปฏิเสธและสาบานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง



ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็น 1 ใน 7 คน ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้ บอกว่า จะต้องทำงานวันละ 12 ชั่วโมง หากทำยอดไม่ได้ตามเป้า ก็จะถูกเข้าห้องดำ ทำร้ายร่างกาย จับกล้อนผม ถูกไฟฟ้าช้อต และหากใครถอนตัวจะต้องเสียเงิน 5 หมื่นบาท



ขบวนการนี้ ยังใช้วิธี Scammer หลายชาติ ปลอมโปรไฟล์ โดย ใช้โปรแกรมหาคู่ หลอกกลุ่มเป้าหมาย ชักชวนให้ลงทุน ไปยังประเทศอื่นๆทั้งมาเล และฟิลิปปินส์



โดยขบวนการนี้ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ 19 คน ทยอยจับได้ก่อนหน้านี้ 7 คน มีทั้งชาวมาเลเซีย ฟิลิปปิน พม่าและไทย ส่วนอาหยง ผู้ต้องหารายที่ 8 ซึ่งจับได้ล่าสุดพบว่าได้นำเงินที่ได้มาจากขบวนการคอลเซนเตอร์มาฟอกเงิน โดยใช้วิธีเปิดค่ายมวย และเป็นโปรโมเตอร์ จัดมวยมาแล้วหลายครั้ง



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางระบุว่า คนจีนที่ไปตั้งฐานหลอกลวงคนไทยอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่กำลังจับตามองกลุ่มที่ทำผิดในประเทศไทย โดยเงินผิดกฎหมายมาฟอก



ขณะนี้ ยังมีผุ้ร่วมขบวนการที่เหลืออีก 11 คน มาดำเนินคดี และในวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไปก็จะเน้นปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ที่หลอกลวงลงทุน ทำให้คนไทยสูญเสียเงินจำนวนมาก