2 กระทรวงนัดถกสกัดสารตั้งต้นผลิตยาบ้า พร้อมเปิด 3 ปัจจัย ทำยาเสพติดระบาด

การขนส่งยาเสพติดด้วยบริการขนส่งเอกชนหรือแม้แต่การส่งทางไปรษณีย์ กำลังเป็นโจทก์ใหม่ของการแก้ปัญหายาเสพติดของไทย โดยเฉพาะข้อมูลที่เปิดเผยโดยเลขาธิการ ป.ป.ส.ระบุว่าการลำเลียงยาบ้าในอดีต มีต้นทุนกิโลกรัมละ 3 หมื่นบาท ตอนนี้ต้นทุนขนส่งไม่กี่ร้อยบาท และปัจจัยจากเคมีภัณฑ์ตั้งต้นที่ไม่ได้ผิดกฎหมายและเครื่องจักรที่ผลิตได้เร็วกว่าเดิมในเวลาเท่าเดิม นี่คือปรากฏการณ์ที่ทำให้ยาบ้า ยังระบาดหนัก



คดีอาชญากรรม ฆาตกรรมหรือแม้แต่เหตุโจรกรรมที่เกิดขึ้นรายวันในสังคมไทย ส่วนหนึ่งมีปัจจัยร่วมมาจากปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะการเสพจนเมาคลั่ง หรืออาการติดยา โดยส่วนใหญ่มาจากฤทธิ์ของแอมเฟตามีน หรือยาบ้า



เลขาธิการ ป.ป.ส.ยืนยันว่าในบรรดาสารเสพติดทุกชนิดนั้น ยาบ้าเป็นประเภทที่ผู้เสพในประเทศใช้มากที่สุดถึงร้อยละ 80 ขณะเดียวกันก็ระบุว่ามีอย่างน้อย 3 ปัจจัยที่ทำให้ยาบ้ายังระบาดแพร่หลาย

1.เคมีภัณฑ์ตั้งต้นเช่น โซเดียมไซนาไนด์ ยังเป็นเคมีภัณฑ์ที่อนุญาต นำเข้า-ส่งออกได้

2.เครื่องปั้มยา หาได้ง่าย และไม่ถูกควบคุมโดยกฎหมาย

3.การขนส่งผ่านพัสดุทำได้ง่าย ราคาถูก



สาเหตุที่ทำให้ยาบ้ายังแพร่หลาย คือสารที่ใช้ตั้งต้นผลิตยาบ้าคือโซเดียมไซยาไนด์ ซึ่งเป็นเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย



นอกจากเคมีภัณฑ์ตั้งต้น และขั้นตอนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขั้นตอนการลักลอบลำเลียงยาบ้าในประเทศ ก็ถูกมองว่าเอื้อต่อการแพร่ระบาด เลขาธิการ ป.ป.ส.อ้างอิง ว่า ในอดีตการลักลอบขนยาบ้า จากแม่สาย จ.เชียงราย ถึงกรุงเทพฯ คิดค่าลักลอบขนเม็ดละ 3 บาท ซึ่ง 1 หมื่นเม็ด น้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม เป็นเงิน 3 หมื่น ขณะที่ปัจจุบันมีการลักลอบขนจำนวนเท่ากัน น้ำหนักเท่ากัน คือ 1 กิโลกรัม เสียค่าขนส่งไม่กี่ร้อยบาท