จับแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่เมืองนนท์ เผยวิธีแยบยล ดัดแปลงรีโมต กดเปลี่ยนทะเบียนรถหนี

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดกั้นยาเสพติด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยึดของกลางได้กว่า 10 ล้านเม็ด ลักลอบลำเสียงเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่หลายจังหวัดเกิดน้ำท่วม ขณะที่ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 จับกลุ่มผู้ค้ายารายใหญ่ในจังหวัดนนทบุรี พบผู้ต้องหาใช้วิธีแยบยลในการนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าด้วยวิธีการใช้รีโมท เปลี่ยนทะเบียนจริงให้เป็นทะเบียนปลอม



ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เข้าตรวจค้น บ้านของกลุ่มผู้ต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับเครื่อข่ายาเสพติด โดยจุดแรกเป็นหมู่บ้าน แห่งหนึ่ง ใน.ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ภายในบ้าน หลังสืบทราบว่าแครื่อข่ายนายกิตติศักด์ หรือแชมป์ อายุ 33ปี ผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้รถยนต์ 2 คัน ในการตระเวนส่งยาเสพติด ให้กับลูกค้าย่านกาญจนาภิเษก พื้นที่กรุงเทพ และนนทุบรี



โดยนำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ภายในบ้าน และมักนำยาไปส่งให้ลูกค้าในช่วงดึกหลังเข้าตรวจค้น พบยาเสพติด ถูกซุกซ่อนอยู่ในบ้าน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือนายกิตติศักดิ์ อายุ 33ปี และจักรพงษ์ อายุ 33ปี และนายสายชล อายุ 35ปี ถูกจับกุมและสารภาพว่าได้เช่าบ้าน ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด และทยาอยลักลอบส่งยา กับลูกค้า



ขณะที่เข้าจับกุม คนร้ายใช้วิธีแยบยล โดยดัดแปลงป้ายทะเบียนรถส่งยา ใช้รีโมทกดเปลี่ยนทะเบียน ใช้เวลาเพียง 3 นาที แผ่นป้ายทะเบียนปลอมด้านหลังรถ จะขึ้นมาแทนป้ายทะเบีนจริง ได้สืบสวนติดตามจนจับได้



ขณะที่ตำรวจ ปราบปรามยาเสพติด ได้ไล่ล่ารถของผู้ต้องหาจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลาง 6 ล้านเม็ด ที่รับมาจกาอ.ธาตุพนาม จ.นครพนม เตรียมส่งต่อเครื่องข่าย ที่อ.วังน้อย พระนครศรีอยุธยา

คดีนี้ ขยายผลหลังจับกุมเครื่อข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ ตอ.เฉียงเหนือ



3 ปี ที่ผ่านมา ได้ไอซ์ 825 กิโลกรัม และเครื่อข่ายยังมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง เมื่อทราบข้อมูลพบรถต้องสงสัย จึงนำกำลังเข้าสกัดจับรถกระบะ ไว้ได้บริเวณสี่แยกไฟแดงธวัชบบุรี

จ.ร้อยเอ็ด มีนายสุจิตต์ และนายณัฐมงคล อยู่ในรถ โดยทั้งสองเครื่องข่ายได้นำยาเสพติดจากแนวชายแดน ประเทศพื่นเบ้าน มาส่งลูกค้า



พบรถต้องสงสัย เข้ามาในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอด็ด มุ่งหน้าไปยัง จ.มหาสารคาม เมื่อจอดเติมน้ำมัน ที่บรบือ งได้ตรวจค้น พบนายอติศักดิ หรือเปีย เป็นผู้ขับรถ เก๋ง ภายในรถพบกระสอบยา มาเต็มคันรถ มี นายอนุขา หรือ ออฟ ขับรถตู้ ป้ายทะเบียนสมุทรปราการ ทำหน้าที่สำรวจเส้นทาง และมี นส.วิภาดา หรือตุ๊กตา นั่งมาในรถตู้ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน สอบสวน



พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า แม้ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือน้ำท่วม แต่ขบวนการนี้ยังลำเลียงกันได้เพราะข้ามฝั่งน้ำโขงมาง่ายกว่าฝั่งภาคเหนือ และเลือกเส้นทางลำเลียงได้มากกว่า



ขณะที่พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่ายาเสพติดที่จับได้เป็นสิบล้านเม็ด มีกระบวนการทำลายทิ้ง



การจับกุมของทังตำรวจ 191 ยึดเฮโรอีน ถึง 120 แท่งยาไอซ์ 162 กิโลกรัมรวมถึงวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 เขตตามีนอีก 97 กิโลกรัม ส่วนของตำรวจปราบปราบยาเสพติดยึดของกลางได้ 10 ล้านเม็ด