ลุ่มเจ้าพระยาน้ำเริ่มลดทุกพื้นที่ - สิงห์บุรีพนังกั้นน้ำแตกทำมวลน้ำทะลักเข้าท่วมกว่า 400 ครัวเรือน

สถานการณ์น้ำท่วม ถือว่า อยู่ในช่วงน้ำเริ่มลดลงทุกพื้นที่ แต่ยังมีพื้นที่ลุ่มอีกอย่างน้อย 29 จังหวัด ที่อาจต้องใช้เวลานับเดือน เพื่อผันน้ำออก


ในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เริ่มจากที่จังหวัดชัยนาท นายมณฑล ตั้งทวี นายกเทศมนตรีตำบลตลุก เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลตลุกได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 11 หมู่บ้าน 1,738 ครัวเรือน ขณะนี้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงมาก บางจุดต่ำกว่าตลิ่งแล้ว ปัญหาที่พบคือน้ำเน่าเสีย จึงต้องเร่งวางเครื่องสูบน้ำที่เน่าเสียออกจากหมู่บ้าน ล่าสุด สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ได้ลดการระบายเหลือ 2,702 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และภายในสองวันนี้ จะมีการปรับลดการระบายน้ำลงอีก


ขณะที่จังหวัดสิงห์บุรี สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงประมาณ 20 เซนติเมตร แต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพนังกั้นน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลพระงาม อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้พังทลายลงมา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องรีบอพยพขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า สัตว์เลี้ยง ขึ้นมาอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 309 สายสิงห์บุรี – อ่างทอง สายเก่า

โดยมวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วยหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 6 จำนวนกว่า 400 ครัวเรือน ขณะที่ชาวบ้านในเขตพื้นที่ตำบลไชโย ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกันเร่งนำกระสอบทรายและหินคลุกมาทำเป็นแนวกั้นน้ำ พร้อมเฝ้าระวังไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่เขตอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง


ส่วนพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ขอนแก่น และเขตติดต่อ ระดับน้ำเริ่มลดลง โดยเขื่อนอุบลรัตน์ ได้ปรับลดการระบายน้ำ ตามที่คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น ได้เสนอให้ลดการระบายน้ำเหลือวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยวันนี้ ได้ระบาย37 ล้านลูกบาศก์เมตร และค่อยๆลดจนเหลือวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ ในวันที่ 25 ตุลาคม


จากขอนแก่น ไปดูที่อุบลราชธานี ที่น้ำท่วมนานกว่า 1 เดือน ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3 แสนไร่ เกษตรส่วนหนึ่ง ได้เรียกร้องให้รัฐบาล พิจารณาปรับเงินเยียวยา ที่ทุกปีรัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชย ให้เกษตรกรที่น้ำท่วมนาปีละ 900 - 1,000 บาทต่อไร่ แต่ปีนี้พื้นที่เสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างน้อย 1,500 บาทต่อไร่


สำหรับข้อมูลล่าสุดจังหวัดอุบลมีพื้นที่การเกษตรเสียหายทั้งหมด 21 อำเภอ กว่า 360,000 ไร่ 58,600 ครัวเรือน สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำยังปรับตัวลดลงอีก 11 เซนติเมตร ทำให้แม่น้ำมูลที่ไหลผ่านตัวเมืองอุบลราชธานี มีระดับน้ำสูง 10.99 เมตร มีน้ำล้นตลิ่ง 3.99 เมตร บางจุดรถยกสูงและรถกระบะเริ่มแล่นผ่านได้ แต่บางจุดที่มีน้ำลึกยังต้องใช้เรือเป็นพาหนะนานเกือบ 1 เดือนแล้ว


สรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำโดยกรมชลประทาน ประจำวันนี้ ยังพบมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้เป็นส่วนใหญ่โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝนตกหนักสุดที่ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีปริมาณน้ำฝน 142.0 มิลลิเมตร อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา มีฝนตก 140.5 มิลลิเมตร ส่วนในภาคอื่นๆ ช่วงเช้ามีอากาศเย็นและอาจมีฝนตกบ้างเล็กน้อย


ขณะที่สถานการณ์น้ำใน4 เขื่อนหลัก อย่าง เขื่อนภูมิพล วันนี้มีปริมาณน้ำสะสม11,778 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุเขื่อน เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 72 ของความจุเขื่อน ส่วนเขื่อนแควน้อยยังมีปริมาณน้ำเกินความจุเขื่อน อยู่ที่ ร้อยละ 101 และเขื่อนป่าสักฯก็มีปริมาณน้ำสะสมเกินความจุเขื่อน ร้อยละ 105 ส่วนพื้นที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ มี 29 จังหวัด ส่วนใหญ่ อยู่ในลุ่มเจ้าพระยา และลุ่มชีมูล