จับตาสถานการณ์น้ำ ชาวปทุมฯ ชุมชนริมน้ำอ่วม ท่วมนานกว่า 1 เดือน-กทม.เฝ้าระวังเจ้าพระยาล้นตลิ่ง

จากพระนครศรีอยุธยา ในลุ่มเจ้าพระยา มีหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหา อย่างที่เขื่อนบางโฉมศรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่กรุงเทพมหานคร และที่ปทุมธานี ทีมข่าว 3 มิติ ได้ลงพื้นที่สำรวจ หลายพื้นที่ในจังหวัดปทุมธานีที่ได้รับผลกระทบ จากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่ง โดยเฉพาะวัดและชุมชนหลายแห่ง ในอำเภอสามโคก และอำเภอเมือง ซึ่งน้ำไหลเข้าท่วมเป็นวงกว้าง

ที่วัดชินวรารามวรวิหาร ในเขตอำเภอเมืองปทุมธานี ซึ่งมีแนวปูนกั้นริมเจ้าพระยา และยังได้นำกระสอบทรายมาเรียงป้องกัน แต่น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ผุดมาตามท่อระบายน้ำ น้ำจึงเข้าร่วมในวัด นอกจากนี้ ในชุมชนรอบวัดบางหลวง ประมาณ 50 หลังคาเรือน ตอนนี้น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร 20 เซนติเมตร ทางวัดจึงได้ร่วมกับชาวบ้าน สร้างสะพานไม้ ให้ประชาชน สามารถเข้าไปดูแลบ้านได้ และหลายครอบครัวย้ายไปอยู่ข้างนอกชุมชน

ส่วนที่วัดสุราษฎร์รังสรรค์ ต่อเนื่องวัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก มีชุมชนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมมานานประมาณ 1 เดือนแล้ว น้ำที่ท่วม ทั้งในเขตอำเภอเมือง และอำเภอสามโคก เพราะกรมชลประทาน ปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเกิน 3000 ลูกบาศเมตรต่อวินาที และมีฝนตกต่อเนื่องหลายวัน รวมทั้งน้ำทะเลหนุน ตอนนี้ต้องย้ายขึ้นไปนอนชั้นบน ตอนนี้น้ำลงเวลาน้ำขึ้นน้ำจะสูงกว่านี้มาก ลำบากมากลุยน้ำจนเท้าเน่า น้ำก็ท่วมแบบนี้ทุกปี

ขณะที่กรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ได้ติดตามปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้มีปริมาณไหลผ่านเฉลี่ย 3,090 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะมีน้ำทะเลหนุนในช่วงเวลา 19.23 น. ฐานน้ำเพิ่มขึ้น 1 เมตร 11 เซนติเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อาจทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวขึ้นสูงได้ ส่งผลให้ชุมชนต่าง ๆ ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบในช่วงน้ำหนุน จึงขอให้ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ

ที่จังหวัดสิงห์บุรี วันนี้ ได้เกิดความขัดแย้งของชาวบ้านสองกลุ่ม โดยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่างาม และตำบลชีน้ำร้าย ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้มารวมตัวกันกว่า 400 คน เพื่อเรียกร้องขอให้เร่งเปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี อ.อินทร์บุรี โดยขีดเส้นตาย ต้องเปิดในวันนี้ เพราะบ้านเรือน ถูกน้ำท่วมถึงชั้นสองแล้ว และแม้จะอพยพออกมาพักอาศัยอยู่บนถนน ก็ยังถูกน้ำเอ่อเข้าท่วม จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี เพื่อช่วยลดระดับน้ำออกไปบ้าง

ขณะที่อีกฝ่าย ซึ่งเป็นชาวบ้านด้านล่างของประตูระบายน้ำ ก็เดินทางมาเช่นกัน พร้อมกล่าวว่า เห็นใจในความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม แต่พื้นที่ด้านล่างหลายแสนไร่ ลงทุนทำนาไปแล้ว ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าว จึงขอเวลาอีกประมาณ 1 เดือน ขอให้พื้นที่ด้านล่าง อย่าง ตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี , ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี, ตำบลบางงา ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ได้เก็บเกี่ยวผลิตผลก่อน โดยการเจรจาของทั้งสองฝ่ายไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

จากนั้น นายสมยศ แสงมณี หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ออกมาชี้แจง โดยมีชาวบ้านยืนยันตามข้อเรียกร้องเดิม คือต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำทันที สุดท้ายนายสมยศ ต้องยินยอมเปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี แต่เป็นการเปิดประตูน้ำเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อดูผลกระทบในพื้นที่ท้ายประตูระบายน้ำก่อน ก่อนจะปรับเปลี่ยนการระบายน้ำอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านก็พอใจและแยกย้ายกันกลับไป