อยุธยาอ่วม! ชาวบ้านโอดบางพื้นที่น้ำท่วมสูงกว่าปี 54 จี้รัฐทบทวนบริหารจัดการน้ำ

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอผักไห่ ต่อเนื่องอำเภอเสนา และอำเภอบางบาล น้ำท่วมถนนหลายเส้นทาง และระดับน้ำหลายพื้นที่ท่วมสูงกว่า 2554 แล้ว เรียกร้องรัฐบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะประสบปัญหาน้ำท่วมยาวนานถึงสิ้นปี

ระดับน้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้นส่งผลให้น้ำล้นคันกั้นน้ำ เข้าท่วมบ่อปลาพระราชทานเมื่อ 2 วันก่อนทำให้สถานการณ์น้ำท่วมบ้านบ่อปลาพระราชทาน ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่วมสูงสุดกว่าปี 2554 แล้ว และท่วมจนถึงถนนบางบาล-ผักไห่ ถือว่าสูงสุดตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม บ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้ ระดับน้ำสูงสุดกว่า 3 เมตร บางบ้านมิดหลังคา บางบ้านถึงชั้น 2 และบางบ้านท่วมเกินชั้นที่มีการยกของหนีน้ำแล้ว

อย่างเช่นบ้านหลังนี้ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำท่วมสูงสุดกว่าปี 2554 เพราะเมื่อ 11 ปีก่อน ยังนอนในบ้านชั้นสองได้ แต่ปีนี้น้ำท่วมสูงถึงชั้นเพลท ที่ใช้วางของหนีน้ำในชั้นสองของบ้านมา 1 ชั้นแล้วและกำลังขึ้นชั้นเพลทที่ 2 โดยน้ำท่วมที่นอนของแม่ในวัย 91 ปีทำให้ต้องไปทำแคร่ไม้ ขนใส่เรือ มาทำเป็นที่นอนให้แม่ เพราะไม่สามารถอพยพไปข้างนอกได้ ทำให้ลูกต้องทำที่นอนให้แม่ใหม่ ท่ามกลางน้ำท่วมอย่างทุลักทุเล

สำหรับพื้นตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล ประสบปัญหาเช่นเดียวกับหลายหมู่บ้านในอำเภอบางบาล อำเภอเสนา และอำเภอผักไห่ ที่น้ำท่วมมาเกือบสองเดือนแล้ว ถือว่าท่วมเร็วกว่าทุกปี เพราะไม่มีการระบายน้ำเข้าทุ่ง ซึ่งจากปริมาณน้ำไม่ได้มากเท่าปี 2554 แต่ทำไมน้ำถึงท่วมรุนแรงกว่า เป็นปัญหาที่อยากให้ภาครัฐทบทวนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วย ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ในน้ำมากว่า 2 เดือนเริ่มเป็นห่วงสุขภาพและโรคภัยที่มากับน้ำ จึงคิดว่าภาครัฐควรจัดหน่วยแพทย์มาดูแลผู้ประสบภัยด้วย

ส่วนที่ตำบลบางบาล น้ำท่วมวิกฤตกว่าปี 2554 แล้วเช่นกัน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางบาล ยอมรับว่าหากมีการระบายน้ำมาตั้งแต่ต้น ชาวบ้านอาจไม่เจอน้ำท่วมสูงแบบนี้ ซึ่ง 11 หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ น่าจะมีการเรียนรู้ และไม่อยากให้คิดว่าอำเภอบางบาล เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพราะทุกปีระดับน้ำจะสูงมาก และใน 12 เดือนต้องอยู่กับน้ำนานถึง 4 เดือน จึงควรมีการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ มีความรุนแรงในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำชีมูล เพราะอิทธพลของฝนและพายุ ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของจิสด้า ณ วันที่ 11 ตุลาคม พบว่ามีน้ำท่วมใน 48 จังหวัด พื้นที่กว่า 5.63 ล้านไร่ ยังน้อยกว่าปี 2554 ถึง 3 เท่าที่ท่วมกว่า 15 ล้านไร่ และจากปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนใหญ่ยังไม่เต็มความจุ ก็ไม่ทำให้วิกฤตเหมือนปี 54 แต่สำหรับพื้นที่น้ำท่วมหนักอย่างลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่นครสวรรค์ พระนครศรีอยุยา จนถึงนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ยังเจอปัญหาน้ำทะเลหนุนในช่วงสัปดาห์นี้จึงอาจมีผลกระทบยาวนาน

จิสด้า ยังตั้งศูนย์ส่วนหน้าร่วมกับหลายหน่วยงานที่ อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุยา เพื่อความแม่นยำในการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำที่พบว่าทุ่งรับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีน้ำท่วมขังกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้วจึงต้องหาทางในการระบายน้ำรองรับน้ำจากเขื่อนป่าสักที่มีปริมาณมากและรับฝนจนถึงปลายเดือนนี้