ปภ.เตือน 11 จว.-กทม. เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้น ด้านเหนือ-อีสาน น้ำยังอ่วม

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อื่นๆ วันนี้ (1 ต.ค. 65) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศ เตือน 11 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังระดับแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นต้นไป ขณะที่ในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือและอีสาน สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย



ที่จังหวัดลำปาง น้ำป่าจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน อำเภอห้างฉัตร ได้หลากเข้าท่วมพื้นที่ใน 2 อำเภอ คืออำเภอห้างฉัตรและอำเภอเกาะคา หลังฝนตกอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร บ้านเรือนกว่า 200 หลัง ถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว พร้อมแจ้งเตือนไปยังหมู่บ้านริมลำห้วยแม่ตาลน้อย ให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน หลังจากน้ำลำห้วยยังสูงขึ้น



ส่วนที่จังหวัดอ่างทอง วันนี้ ที่บริเวณวัดต้นสน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง ได้เกิดน้ำเจ้าพระยาผุดลอดใต้เขื่อนเข้ามายังบริเวณ บ่อเต่า วัดต้นสน เริ่มขยายวงกว้าง มีน้ำไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่ทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ และเจ้าหน้าที่อาสาป่อเต็กตึ๊ง ได้น้ำกระสอบทรายมาทำแนวป้องกัน ทางเทศบาลเมืองอ่างทอง รายงานว่า น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำผุดเข้ามาในบริเวณบ่อเต่า ใกล้เคียงกับรอยน้ำผุดเดิมเมื่อปีที่ผ่านมา และเตรียมนำดินลูกรัง หินคลุกมาทำคันแนว โดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าเขตเศรษฐกิจย่านการค้าในเมืองอ่างทอง



ขณะที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพายุโนรูโดยตรง และอยู่ในแผนการเดินทางลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าด้วย



วันนี้ทางกองบัญชาการกองทัพไทย นำโดย พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สั่งให้หน่วยบินจากกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ทำการบินสนับสนุนภารกิจของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จ.อุบลราชธานี นำถุงยังชีพ อาหารแห้ง ยาและเวชภัณฑ์ จำนวน 100 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนบ้านคูสว่าง ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยมารับการช่วยเหลือจากหน่วยบรรเทาทุกข์ได้ตามปกติ เพราะถูกแม่น้ำมูลไหลท่วมล้อมรอบเป็นเกาะ



สำหรับชาวบ้านคูสว่าง แห่งนี้ ถ้าต้องการเดินทางออกจากหมู่บ้านไปที่ศูนย์ช่วยเหลือตำบลหนองกินเพล ต้องใช้เวลาเดินทางฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวของแม่น้ำมูล ทั้งขาไปและขากลับไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง



จังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 17 อำเภอ 87 ตำบล 590 หมู่บ้านต้องอพยพ 2,120 ครอบครัว 7,135 คน โดยเป็นผู้อพยพเพิ่มจากเมื่อวาน 307 ครอบครัว จำนวน 1,212 คน และพื้นที่เกษตรกรรมเสียหาย 124,000 ไร่



ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือน 11 จังหวัด และ กรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังระดับแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ประกอบกับคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงวันที่ 1 - 6 ตุลาคมนี้ ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีแนวโน้มเกินความจุที่ระดับเก็บกักสูงสุด



จึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได และจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในอัตราไม่เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป