'บิ๊กป้อม' สั่ง 'ชัชชาติ' เร่งระบายน้ำออกจากกทม. - ระยองอ่วมหนัก จนท.เร่งอพยพปชช. ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

นอกจากพื้นที่ริมน้ำชี ที่ขอนแก่น และพื้นที่ริมแม่น้ำสายหลักที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว ที่ภาคตะวันออก อย่าง ที่จังหวัดระยอง ปีนี้ก็มีปัญหาน้ำท่วมต่อเนื่องมาหลายวัน เช่นเดียวกับชาวบ้านที่เขตลาดกระบัง ของกรุงเทพมหานคร ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขังมาเป็นวันที่ 7 แล้ว ซึ่งวันนี้มีหลายส่วนเข้าไปบูรณการ และประสานความช่วยเหลือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร


พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะไปที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ เขตมีนบุรี โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์และการระบายน้ำออกจากพื้นที่ กทม. ที่ระบุว่า ขณะนี้มีปัญหาการระบายน้ำฝั่งตะวันออกทำได้ลำบาก เพราะไม่มีทางไป ซึ่งนายชัชชาติ ขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากรัฐบาล


พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้กรุงเทพมหานครเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลในการเร่งแก้ปัญหา ขอให้ทุกคนใจเย็น ๆ ส่วนในช่วงเช้า พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปตรวจเยี่ยมสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณสะพานคลองทับยาว เขตลาดกระบัง ซึ่งนายชัชชาติ รายงานสถานการณ์ ว่า เขตลาดกระบังหนักที่สุด จากฝนที่ตกลงมากกว่า 2 เท่าของค่าเฉลี่ย


พลเอกอนุพงศ์ ย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือ กทม.ตามที่ร้องขอทุกอย่าง ซึ่งที่ผ่านมามีการประสานความร่วมมือกันตลอด โดยเฉพาะเรื่องเครื่องผลักดันน้ำ และมีกองทัพเรือมาร่วมด้วย


นายชัชชาติ ระบุถึงภาพรวมของปัญหาในกรุงเทพขณะนี้ คือมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 230 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ระบายไปแล้ว 130 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ลาดกระบัง ที่เดือนกันยายน มีฝนตกสูงถึง 2 เท่าจากปกติในรอบ 30 ปี มีปริมาณน้ำเฉลี่ย 120 มิลลิเมตร ระหว่างวันที่ 1-14 กันยายนที่ผ่านมา ฝนตกมาแล้วเฉลี่ยเกือบ 300 มิลลิเมตร ทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำเป็นไปได้ยาก


ในอนาคต ต้องมีแผนทำทางด่วนน้ำ ลงไปอ่าวไทยให้เร็วขึ้น โดยจะเสนอแผนต่อ สทนช. ในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจจะเป็นการทำอุโมงค์หรือทางด่วนน้ำ ตัดจากคลองลำปลาทิว ลงสู่คลองร้อยคิว ของกรมชลประทาน


ส่วนที่จังหวัดระยอง น้ำในคลองทับมา ล้นตลิ่ง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร รวมถึงถนนสาย 36 ช่วงตั้งแต่แยกทับมาขึ้นไปทางแยกเกาะกลอย และมีมวลน้ำจากอำเภอนิคมพัฒนา ไหลเข้าเขตพื้นที่ตำบลทับมาเพิ่มเข้าไปอีก โดยระดับน้ำตามหมู่บ้านต่าง ๆ สูงประมาณ 1-2 เมตร ทั้งนี้ทางจังหวัด และ เทศบาลตำบลทับมา รวมถึงหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ลงพื้นที่อพยพ ผู้ป่วย เด็ก และคนชรา ประชาชน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่โรงเรียนชุมชนวัดทับมา เ และเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกทะเลเพิ่มเติม