พ่อ-ย่า เดินหน้าเอาเรื่อง แม่-พ่อเลี้ยงทำร้ายลูกสาวโคมา จ่อขอขุดศพลูกชายชันสูตร คาดโดนเหมือนกัน

เกิดเหตุความรุนเเรงเกิดขึ้นกับเด็กอีกเเล้ว ล่าสุด เป็นกรณีของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกทารุณกรรมอาการสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง-เสี่ยงพิการตลอดชีวิต ตอนนี้หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่เเม่ของเด็กกับพ่อเลี้ยง ซึ่งหายตัวไปเเละไม่มีใครติดต่อได้ จนทางโรงพยาบาลต้องประสานไปที่พม. เพื่อติดต่อกับพ่อเเท้ ๆ จึงรู้ว่าก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งสูญเสียลูกชายวัย 2 ขวบ ด้วยลักษณะอาการที่คล้ายกัน คือ มีเลือดออกในสมองเเละช่องท้อง ร่างกายฟกช้ำคล้ายถูกของเเข็งกระเเทก



เรื่องนี้เปิดเผยโดย ทนายรณณรงค์ เเก้วเพ็ชร์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ พ่อกับย่าของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือมาที่ "เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม"



พ่อของเด็กหญิง เล่าว่า ตนเองเพิ่งเลิกรากับภรรยา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทางภรรยาอ้างสิทธิ์ความเป็นแม่ ขอพาลูกทั้ง 2 คนไปเลี้ยง กระทั่งวันที่ 8 สิงหาคม มีเจ้าหน้าที่พม.โทรแจ้งว่าลูกสาววัย 3 ขวบ อาการสาหัส ถูกพามารักษาที่สถาบันสุขภาพเด็ก ย่านราชวิถี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยคนที่พามาก็คือแม่กับพ่อเลี้ยง แต่กลับหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม จึงตดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง



ทนายรณณรงค์ บอกว่า หลังพ่อเข้าแจ้งความ ตำรวจได้เรียกแม่แท้ ๆ กับพ่อเลี้ยงมาสอบปากคำ ทั้งคู่อ้างกับตำรวจว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้ว่าลูกสาวโดนอะไรมาบ้าง แต่จากการลงพื้นที่ไปสำรวจองพักที่เกิดเหตุ พบว่า มีผู้ใหญ่พักอาศัยด้วยกัน 3 คน เพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงเด็กร้องบ่อยครั้ง



ขณะที่ย่าของเด็กหญิง เล่าว่า วันที่ย่ามาเห็นครั้งแรก หลานหน้าเขียวคล้ำ แพทย์บอกว่า วันแรกที่เข้ามารักษา มีอาการชักเกร็ง เลือดคั่งในสมองชั้นนอก เลือดออกที่ตาข้างซ้าย ตามตัวมีรอยแผลฟกช้ำ ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู อาการตอนนี้ยังติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ และต้องดูดเสมหะทุกครึ่ง ชั่วโมง แพทย์บอกว่าภายใน 6 เดือนนี้ ถ้าทำกายภาพบำบัดแล้วน้องไม่กลับมาเป็นปกติ ก็อาจจะพิการไปตลอดชีวิต จากนี้จะเดินหน้าทวงความยุติธรรมให้หลานสาว



หลังเกิดเหตุ หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่แม่กับพ่อเลี้ยง ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย พ่อของเด็ก บอกว่า ตนเองกับภรรยาแยกทางกันเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม และก่อนหน้านั้น อดีตภรรยามีพฤติกรรมไม่ใส่ใจดูแลลูก กระทั่งมารู้ทีหลังในวันที่ 3 สิงหาคม ว่าลูกชายคนเล็ก วัย 2 ขวบ 1 เดือน เสียชีวิต



แพทย์ระบุอาการ มีเลือดออกในช่องท้อง คล้ายถูกของแข็งกระแทก ที่รับไม่ได้ก็คือลูกชายคนเล็ก เสียชีวิตหลังจากแยกไปอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ได้เพียง 3 วัน ซ้ำร้ายต่อมายังพบว่าลูกสาวคนโตวัย 3 ขวบ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน และอาจจะต้องพิการไปตลอดชีวิต



มีรายงานว่าวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย. 65) ทนายรณณรงค์ จะพาพ่อกับย่าของเด็กทั้ง 2 คน ไปพบกับผู้กำกับสภ.บางบัวทอง เพื่อเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนศพของลูกชายคนเล็กที่นำไปฝังตามพิธีกรรมของศาสนาอิสลาม ทางครอบครัวบอกว่า อาจจะขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยขุดศพขึ้นมาเพื่อชันสูตรอีกครั้ง