สังคม

ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด 4 จนท.รัฐเรียกรับส่วย "นาตารี อาบอบนวด" 2 ราย ถูกพิพากษาจำคุกสูงสุด 50 ปี ไม่รอลงอาญา

โดย parichat_p

31 ส.ค. 2565

118 views

ความคืบหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับคดีค้ามนุษย์ ภายในสถาน "อาบอบนวด นาตารี" ย่านรัชดาภิเษก หลังจากสามารถจับกุมโกลัก ซึ่งเป็นเจ้าของนาตารีส่งฟ้องศาลได้ ล่าสุด มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือป.ป.ท. ได้ชี้มูลความผิดทั้งวินัยเเละอาญากับข้าราชการตำรวจ 4 นาย ที่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากสถานประกอบการ ในจำนวนนี้มี 2 ราย ถูกศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาให้ลงโทษจำคุกสูงสุด 50 ปี โดยไม่รอลงอาญา

หลังพบว่า ภายในสถานบริการเเห่งนี้ ลักลอบค้าประเวณีเด็ก / กว่า 90 % เป็นหญิงต่างด้าว เเละในจำนวนนี้มีถึง 15 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าข่ายค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่พบข้อมูลรายรับเเละบัญชีส่วยหลายรายการ ระบุชื่อบุคคลเเละหน่วยงานที่ร้านต้องจ่าย มีทั้งเเบบรายเดือนเเละจ่ายเป็นรายสัปดาห์


ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบผู้ที่เกี่ยวข้อง มีทั้งพนักงานเชียร์เเขก ผู้จัดการ เเละเจ้าของนาตารีตัวจริง ก็คือนายประเสิรฐ สุขขี หรือโกลัก ถูกเเจ้งข้อหาหนักฐานค้ามนุษย์

สำนักงาน ป.ป.ท. พบมีข้าราชการตำรวจอย่างน้อย 4 นาย พัวพันรับผลประโยชน์ ถูกชี้มูลทั้งวินัยเเละอาญา ต่อมาพนักงานอัยการ ได้สั่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลได้มีคำพิพากษา ให้จำคุกดาบตำรวจนายหนึ่งตำแหน่งผู้บังคับหมู่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล


กระทำการเรียกหรือรับทรัพย์สิน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากสถานบริการดังกล่าวจำนวน 65 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 641,000 บาท ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 65 กระทง รวมจำคุก 325 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี


รายต่อมา พิพากษาเมื่อ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ดาบตำรวจ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทำการเรียกหรือรับทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ดำเนินการสืบสวนคดีอาญาและเข้าตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญา จำนวน 17 ครั้ง ครั้งละ76,000 – 79,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,301,000 บาท ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 17 กระทง รวมจำคุก 85 ปี


แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ หนึ่งในทีมสืบสวนเเละตรวจสอบในขณะนั้น ให้ความเห็นเเละตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องนี้ การดำเนินคดีกับจนท.รัฐ เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการจัดอำดับสถานการณ์ค้ามนุษย์ ซึ่งมีผลต่อการค้าระหว่างประเทศ เเละขณะนั้นไทยตกไปอยู่ tier 3 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย ก่อนจะขยับขึ้นมาเป็น 2.5 กระทั่งมาอยู่ tier 2 ในปัจจุบัน คดีนี้ นายประเสริฐ หรือโกลัก ยังอยู่ระหว่างฝากขัง ส่วนตำรวจอีก 2 นาย ป.ป.ท.ชี้มูลเเล้ว อยู่ระหว่างไต่สวนเเละรอคำพิพากษา

คุณอาจสนใจ

Related News