'กรมควบคุมโรค' ยัน พบผู้ป่วย 'ฝีดาษลิง' รายที่ 3 ในไทย ชี้ไม่ใช่โรคติดต่อง่าย ประสานนำเข้าวัคซีนภายใน ส.ค.นี้

กรมควบคุมโรคยืนยันพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายที่ 3 ในไทย ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เบื้องต้นมีผู้สัมผัสเสี่ยง 7 คน ขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดจังหวัดผู้เก็ตได้เข้าดำเนินการกักตัวแล้ว พร้อมส่งเลือดแฟนสาวที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปตรวจคาดทราบผลวันพรุ่งนี้

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงยืนยันไทยพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเพิ่มเป็นรายที่ 3 เป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 25 ปี เดินทางเข้าไทยที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อท่องเที่ยว หลังจากนั้นไม่นาน มีอาการเข้าได้กับโรคฝีดาษลิง คือ มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต มีตุ่มผื่นขึ้นที่อวัยวะเพศ ลำตัวและแขนขา จึงมาพบแพทย์ / เบื้องต้นคาดว่า ติดเชื้อตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศไทย แต่เพิ่งแสดงอาการ

ด้าน นายแพทย์ กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ผู้ป่วยคนนี้เป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต โดยจากการสอบสวนโรค

ชายชาวเยอรมันคนนี้ เดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อ 18 กรกฎาคม โดยมาพักกับแฟนสาวชาวไทย ต่อมาในวันที่ 23-24 กรกฎาคม ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ และ มีผื่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในวันที่ 30 กรกฎาคม ซึ่งขณะนั้นพบผื่นขึ้นที่ตามร่างกายและอวัยวะเพศ โดยมีอาการเข้าข่ายโรคฝีดาษลิงจึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อ และทราบผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการในวันที่ 2 สิงหาคมในช่วง 6 โมงเย็น ว่าเป็นการติดเชื้อโรคฝีดาษลิง

ขณะนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 คน ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวของแฟนสาว โดยแพทย์ให้เฝ้าสังเกตอาการ 21วัน ส่วนของแฟนสาวชาวไทยได้มีการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจ ซึ่งจะทราบผลเลือดในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ไปบ้านพักและชุมชนที่ผู้ป่วยพักอาศัยแล้ว เพื่อไปฆ่าเชื้อทำความสะอาดแล้ว

ด้าน นพ.โอภาส ย้ำว่า โรคฝีดาษลิงไม่มีอาการรุนแรงหรือติดต่อได้ง่าย โดยจากการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วย 2 คนแรก คือ ชายชาวไนจีเรียและชายไทย ยังไม่มีใครติดเชื้อเพิ่ม

ส่วนวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง องค์การเภสัชกรรมได้ติดต่อนำเข้ามาภายในเดือนสิงหาคมนี้ เบื้องต้นจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้มีความเสี่ยงก่อนการสัมผัสเชื้อ จะเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูง /และ 2.กลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยไม่เกิน 14 วัน หลังสัมผัสเชื้อครั้งสุดท้าย ส่วนการรักษา ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสามารถหายเองได้ จึงไม่จำเป็นต้องกินยาต้านไวรัสทุกราย ยกเว้นผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี


สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษลิงในต่างประเทศ ล่าสุด รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐอิลลินอยส์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินการระบาดของโรคฝีดาษลิง ตาม มาตรการที่รัฐ พยายามรณรงค์มห้ประชาขนในพื้นที่ที่พบการระบาดออกมารับวัคซีนป้องกันโรคนี้


โดยขณะนี้สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงสะสมแล้วมากกว่า 5,800 คน อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียกว่า 800 คน และรัฐอิลลินอยส์อีกกว่า 500 คน แม้ว่าองค์การอนามัยโลก หรือ WHO จะประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่น่ากังวลระหว่างประเทศ แต่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังไม่ได้มีการออกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยปล่อยให้รัฐบาลท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งรัฐแคลิฟอร์เนียถือป็นรัฐที่ 3 ของสหรัฐฯ ที่ประกาศภาวะฉุกเฉินของโรคฝีดาษลิง