สธ.เฝ้าระวังโอมิครอน BA.4-BA.5 อาการชัดกว่ารุ่นแรก แพร่เชื้อเร็วขึ้น 1.5 เท่า

กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4-BA.5 ระบุพบในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศสูงกว่าผู้ติดเชื้อในประเทศ พบการแพร่เชื้อเร็วกว่าเดิมถึง 1.5 เท่า ขณะผู้อำนวยการศูนย์ไบโอเทค ระบุ ทั้ง 2 สายพันธุ์ มีอาการชัดกว่า โอมิครอนสายพันธุ์อื่น

กระทรวงสาธารณสุข คาดสถานการณ์การท่องเที่ยวและธุริกิจบริการสุขภาพ จะกลับมาฟื้นตัวราว 2-3 ปีนี้ หลังประกาศผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้น ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่มีข้อมูลว่าแพร่เชื้อเร็วกว่าเดิมถึง 1.5 เท่า หลังจากไทยพบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 180 คน แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนพอว่าจะรุนแรงกว่าสายพันธุ์แรกหรือไม่ ขณะที่ล่าสุดผู้อำนวยการ ของศูนย์ไบโอเทค ระบุว่าทั้ง2 สายพันธุ์ มีอาการชัดกว่า โอมิครอน สายพันธุ์อื่นๆ

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผย ข้อมูลหน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศส ที่เก็บข้อมูลอาการผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 ประมาณ 280-290 คน

โดยพบว่าผู้ติดเชื้อทั้ง 2 สายพันธุ์ มีอาการชัดกว่าผู้ป่วยโอมิครอนรุ่นแรกในทุกอาการ ซึ่งกว่า 50% คือ อ่อนเพลีย ไอ ไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังพบ กลุ่มอาการทางเดินหายใจ เช่น หายใจถี่ และหายใจลำบาก และกลุ่มอาการทางเดินอาหารหรือท้องเสีย ค่อนข้างมาก ในผู้ป่วย 2 สายพันธุ์นี้ด้วย ส่วนการรักษาส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 5 วัน โดยพบว่า ผู้ได้รับวัคซีนแล้ว มีภูมิคุ้มกันเพียงพอต่ออาการรุนแรง

ล่าสุดไทยพบผู้ป่วยทั้ง 2 สายพันธุ์นี้แล้วอย่างน้อย 180 คน คิดเป็น 45.7% หรือเกือบครึ่งของกลุ่มตัวอย่างจากการเฝ้าระวัง

ด้าน กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 คนต่อวัน ซึ่งนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในความเป็นจริงอาจจะมากกว่านั้น ถึง 10,000 คนต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามการพยากรณ์โรค

ส่วนการพบเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4-BA.5 กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังสถานการณ์มากว่า 2 เดือน ซึ่งยังไม่มีลักษณะการแพร่ระบาดที่รุนแรง กว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ หรือน่ากังวลอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่หากพบ ความผิดปกติ ก็จะรีบเตือนประชาชน โดยข้อมูลทางการแแพทย์ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4-BA.5 อาการ ไม่ได้มีอาการที่รุนแรง

ส่วนการมีประกาศราชกิจจานุเบกษา ที่ไม่บังคับการใส่หน้ากากอนามัยโดยให้เป็นไปตามความสมัครใจนั้นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า คำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หากอยู่ในสถานที่แออัดหรือในคนหมู่มาก ก็ยังคงแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย แต่หากอยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง หรือ ออกกำลังกายก็อาจจะไม่ใส่หน้ากากอนามัยได้ แต่ทั้งนี้ไม่อยากให้สังคม มองคนที่ไม่ได้ใส่ส่วมหน้ากากอนามัย เป็นคนผิด แต่การผ่อนคลายหน้ากากอนามัย ก็เพื่อ ให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ยังคงเน้นย้ำ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง ขอให้ประเมินสถานการณ์ และพิจารณาการใส่หน้ากากอนามัยอยู่

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ว่า การผ่อนคลายมาตรการต่างๆเพิ่มขึ้น จะทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลา 2-3 ปี ที่ธุรกิจเชิงสุขภาพจะกลับมาปกติ