จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน ใช้ไทยเป็นฐานหลอกลงทุนเงินดิจิทัล จ่อขยายผลโยงแก๊งในกัมพูชา

ตำรวจจับชาวไต้หวัน 6 คน ลักลอบตั้งสำนักงานในไทย เปิดคอลเซนเตอร์ หลอกลวงคนประเทศตนเอง มีชาวไต้หวันตกเป็นเหยื่อกว่า 500 คน ตำรวจเตรียมขยายผลความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ในกัมพูชา เพื่อหลอกคนไทยด้วยหรือไม่

ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ หรือ PCT จับชาวไต้หวัน 6 คน ลักลอบเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อกระทำความผิดในลักษณะแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกให้เหยื่อลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นกลุ่มที่รับโอนเงินแก๊งคอลเซนเตอร์ จากประเทศกัมพูชาด้วยหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาพยายามทำลายข้อมูลบางส่วนอย่างมีพิรุธ ในจำนวนนี้ 2 คนมีหมายจับคดีฉ้อโกง

โดยตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ หรือ PCT พบพฤติกรรมน่าสงสัยของชาวไต้หวัน 6 คน ที่ได้เช่าอาคารพาณิชย์ ย่านศรีนครินทร์ เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อเป็นสำนักงานหลอกลวงลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และใช้บัญชีธนาคารสัญชาติจีน เป็นเส้นทางการเงินในการกระทำความผิด จากการตรวจสอบพบว่า ในจำนวนผู้ต้องหา 2 คน มีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนผ่านโทรศัพท์และระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต แลได้มีการเพิกถอนวีซ่า ทั้ง 6 คน โดย 2 คน มีหมายจับในคดีฉ้อโกงที่ไต้หวัน จึงได้ส่งกลับไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน

ผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้ง 6 คน เข้ามาอยู่ในไทยประมาณ 2 ปี อ้างว่าทำธุรกิจแพลตฟอร์ม ลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล มีชาวไต้หวันตกเป็นเหยื่อ 500 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยชาวจีนไต้หวันเป็นที่จับตามองว่า เกี่ยวพันเป็นนายทุนแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งได้ย้ายฐานไปหลอกลวงคนไทยอยู่ที่ประเทศกัมพูชา

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า แก๊งคอลเซนเตอร์ ที่อยู่ในกัมพูชา ซึ่งได้ว่าจ้างคนไทยไปร่วมขบวนการเพื่อโทรศัพท์มาหลอกคนไทย ส่วนใหญ่มีชาวจีนไต้หวัน เป็นหัวหน้าขบวนการ มีวิธีการสร้างโปรแกรมในการแอบอ้างเป็นตำรวจ และเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว จะมีบัญชีม้าในการยักย้ายถ่ายเท โดยท้ายสุดส่วนใหญ่จะโอนไปซื้อสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้ยากกับการติดตามเส้นทางการเงิน ส่วนการสกัดกั้นบัญชีม้า ทางตำรวจได้พยายามประสานทางธนาคาร และส่งข้อมูลรายชื่อบัญชีม้าไปให้ รวมทั้งประสาน ปปง. ออกระเบียบใหม่ ให้บัญชีม้าทำธุรกรรมที่ธนาคารเท่านั้น

ทั้งนี้ หลังจับกุมชาวไต้หวันกลุ่มนี้ได้ จึงต้องตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับการโอนเงินจากแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ประเทศกัมพูชาหรือไม่