สังคม

จ่อยึดทรัพย์รอบ 2 อีกร่วม 100 ล้าน คดียักยอกเงินวัดบวรฯ

โดย panwilai_c

14 พ.ค. 2565

204 views

ตำรวจกองปราบและ ปปง.ได้ยึดทรัพย์อดีตคนใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร โดยพบความเสียหายรวมมูลค่าร่วม 200 ล้าน ล็อตแรกสามารถยึดมาได้ 14 รายการ ร่วม 92 ล้านบาท พบมีการนำไปซื้ออสังหริมทรัพย์ และรถยนต์ โดยใช้ชื่อผู้ต้องหา และคนใกล้ชิดเป็นผู้ถือครอง และสัปดาห์หน้าจะมีการยึดทรัพย์ในล็อตที่สอง ซึ่งยังมีมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท 



ห้องชุดคอนโดมิเนียม ย่านหมอชิต-จตุจักร ราคา 7 ล้าน และอีกห้อง กำลังตกแต่งราคา 14ล้าน 6 แสนบาท โดยมีชื่อนายอภิรัตน์ หรือเนย เป็นผู้ครอบครอง ส่วนอีกห้องมีชื่อคนใกล้ชิดของนายอภิรัตน์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ด้วย และจากการตรวจค้นยังพบว่า ห้องที่กำลังตกแต่ง มีทรัพย์สินมีค่าหลายรายการมูลค่าร่วม 10 ล้านบาท นำมาซุกซ่อนไว้ด้วย โดยคอนโดทั้งสองได้ถูกตำรวจและปปง.ยึดทรพย์แล้ว พร้อมกับที่ดินย่านประเวศ ราคาอีกกว่า 3 ล้านบาท



ขณะนี้ นายอภิรัตน์ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดเกี่ยวกับการปลอม เอกสารสิทธิ ฉ้อโกง และฟอกเงิน โดยอาศัยความเป็นลูกศิษย์คนใกล้ชิดและไว้วางใจของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาส วัดบวรนิเวศวิหารกรอกข้อความลงในใบถอนเงินที่มีลายมือชื่อของสมเด็จพระวันรัต ซึ่งลงลายมือชื่อไว้ถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่วัดวชิรธรรมารามยักยอกไปกว่า 80 ล้านบาท นำมาซึ่งการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดบวรนิเวศวิหาร โดยใช้ชื่อบัญชี สมเด็จพระวันรัตเพื่อสร้างโรงเรียนวัดคีรีวิหาร และ สมเด็จพระวันรัตเพื่อสร้างวัดราชบุรี รวมทั้งหมด 5 บัญชี โดยทรัพย์สินจากการฟอกเงินจํานวน 14 รายการ ถูกยึดไว้หมดแล้ว



โดยรถเบนลี่ ราคา 15 ล้านมีชื่อญาติเป็นผู้ครอบครอง ส่วนรถปอร์เช่ มีนายอภิรัตน์ครอบครอง วอลโว่มีชื่อญาติราคา 3 ล้าน ส่วนเทสล่า ราคา3 ล้านบาท มีชื่อผู้ครอบครอง เป็นเพื่อนชายของนายอภิวัฒน์



โดยมีการโอนเงินไปยังบิดา มารดา 20 ล้านบาท และได้อายัดเงินแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางระบุว่า ตัวเลขความเสียหายจากการฉ้อโกงวัด กว่า 190 ล้านบาท ขณะนี้ยึดกลับมาได้ 92 ล้านบาท ซึ่งผู้กระทำผิดยังเป็นคนเดียว ส่วนผู้รับโอนได้รีบนำทรัพย์สินมาคืนเมื่อทราบว่าเป็นเงินยักยอกวัด



ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพรอง ผบก.ป.กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท ปปง.ได้ยึดทรัพย์ล็อตแรกไปแล้ว จำนวน 14 รายการรวมมูลค่ากว่า 92 ล้านบาท และ เตรียมยึดล็อต 2 เป็นทรัพย์สินประเภทเครื่องประดับ เพชร นาฬิกา กระเป๋า พระเครื่อง เงินสดที่อยู่ในบัญชีของคนใกล้ชิด อีกรวมเกือบร้อยล้านบาท



ในส่วนของความคืบหน้าสำนวนคดีเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้มีการสรุปสำนวนส่งอัยการศาลอาญากรุงเทพ พิจารณาไปแล้ว 1 คดี คือ คดีการยักยอกเงินวัดวชิรธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนที่เหลืออีก 3 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาเร่งสรุปสำนวน

คุณอาจสนใจ

Related News