ผบช.น. ยันไม่มี "อดีตตำรวจ" แทรกแซงคดี 'ปริญญ์' ล่าสุดเหยื่อแจ้งความแล้ว 15 ราย

ความคืบหน้าคดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหากระทำชำเราคุกคามทางเพศหญิงสาวหลายคน โดยนายปริญญ์เข้ามอบตัวกับตำรวจมีการส่งฝากขัง และได้รับการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี ล่าสุดตำรวจยืนยันมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 15 คน ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความกับผู้ก่อเหตุเพิ่ม และยืนยันยังไม่พบข้อมูลว่ามีอดีตตำรวจบางนาย เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้เสียหาย

โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นคอนโดฯของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุในคดีข่มขืน ว่า ในการตรวจสอบแม้จะหาหลักฐานได้น้อยก็ต้องทำ โดยได้เก็บวัตถุพยานต่างๆ ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำบันทึกมาเปรียบเทียบคำให้การผู้กล่าวหา

ยืนยันว่า 3 คดีแรกของ สน.ลุมพินี ผู้กล่าวหายังคงยืนยันคำให้การเดิมว่าจะเอาผิดกับผู้ต้องหา ตำรวจจึงไม่หนักใจเพราะมีหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ที่กังวลคือข้อหาอนาจาร หากกระทำกันเพียงลำพัง สามารถยอมความได้ และคดีมีอายุความ 3 เดือน หากส่งสำนวนถึงอัยการ รวมถึงมีการไกล่เกลี่ย ผู้เสียหายสามารถไม่เอาความผู้ก่อเหตุได้ ส่วนคดีที่มีผู้เสียหายอ้างว่าถูกวางยาได้รับเลขคดีไว้ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วว่าจะมีการเรียกหรือดำเนินการอย่างไรกับผู้ถูกกล่าวหาต่อไป

ส่วนกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ระบุก่อนหน้านี้ว่า ขณะนี้มีอดีตนายตำรวจบางนายเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีและตัวผู้เสียหาย วันนี้ พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงว่า ผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้ว 15 คดี ส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ลุมพินี 8 คดี กำลังจะทยอยแจ้งความเพิ่มเติม หลังการสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จ โดยย้ำว่าให้พนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความรอบคอบ รัดกุม ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายให้มากที่สุด ส่วนกรณีที่มีบุคคลไปข่มขู่พยานหรือผู้เสียหาย ยังไม่พบข้อมูล แต่หากเป็นจริงก็ถือว่า ทำให้รูปคดีเสียหาย ก็จะต้องดำเนินคดีถึงที่สุด