ชาวบ้านร้อง อดีตหัวหน้า กฟก.เพชรบูรณ์ ทุจริต แต่คดีล่าช้า แถมโดนฟ้องกลับ

หลังจากข่าว 3 มิติ นำเสนอความคืบหน้ากรณีอดีตหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาเพชรบูรณ์ อยู่ระหว่างถูก ปปท.เขต 6 ไต่สวนข้อเท็จจริง จากกรณีถูกไล่ออกเพราะถูกกล่าวหาว่าทุจริตกองทุนฟื้นฟูฯ วงเงินกว่า 49 ล้านบาท

ล่าสุด รักษาการผู้อำนวยการ ปปท.เขต 6 ยืนยันว่าการไต่สวนของอนุกรรมการฯคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อลงความเห็นแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ในเดือนหน้า ขณะที่ข่าว 3 มิติพบว่ากรณีนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกอย่างน้อย 10 คน ที่สมรู้ร่วมคิด ทำเอกสารปลอม และหลอกเอาสำเนาบัตรประชาชนของชาวบ้านมากระทำทุจริต

นางสง่า นาเมือง และนางหนูหลั่น ศิริไกรภักดิ์ ทั้งสองอายุกว่า 60 ปี เป็นชาวบ้านบึงใต้ ตำบลฝายนาแซง อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ทั้งคู่ เป็นผู้เสียหายที่ถูกเพื่อนบ้านคนหนึ่งหลอกเอาสำเนาบัตรประชาชนไปใช้เป็นทุจริต โดยไปปลอมแปลงว่ากู้เงินกับสหกรณ์การเกษตรภูมิไทหล่มเก่า และสหกรณ์ศุภนิมิต จากนั้นก็มีขบวนการทุจริต อีกหลายขั้นตอนเพื่อนำหนี้ไปขายให้กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร ซึ่งเงินที่ได้จากการโยกย้ายขายหนี้ เพื่อช่วยเกษตรกร ตกไปอยู่ในมือคนบางกลุ่มที่ร่วมกันทุจริต

ข้อเท็จจริงถูกเปิดเผย เพราะมีการตรวจสอบพบว่าการปลอมแปลงเอกสารแทบทั้งหมด โดยเฉพาะลายเซ็นในทุกสัญญา ทุกขั้นตอนที่เจ้าตัวไม่รับรู้ โดยการทำเอกสารปลอมแปลงของกลุ่มคนดังกล่าวถึงขั้น นำรูปของหญิงคนอื่น มาใส่เป็นชื่อของภรรยานายสำรวม จันทร์คำ ซึ่งภรรยาของเขาถูกปลอมแปลงเอกสารไปกู้ยืมเงินสหกรณ์ ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์

สหกรณ์ที่ถูกระบุถึงจากปัญหาดังกล่าวคือสหกรณ์ภูมิไทหล่ม , สหกรณ์มะขามหวาน และสหกรณ์ศุภนิมิต ให้บริการเฉพาะสมาชิกในเขต อ.หล่มเก่า แต่ผิดปกติตรงที่มีเอกสารชาวบ้านดงหลง อ.เขาค้อ มากู้ยืมด้วย ซึ่งผลการตรวจสอบเมื่อ 3 ปีก่อน พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์บางคนเท่านั้น ที่ เกี่ยวข้อง โดยแอบเปิดบัญชีอื่น นอกเหนือจากบัญชีหลักของสหกรณ์ เพื่อรองรับเงินจากการขายหนี้ที่ไม่ถูกต้องให้กองทุนฯ

นายยุพราช บัวอินทร์ นักการเมืองที่ไปช่วยชาวบ้านกรณีนี้เมื่อ 3 ปีก่อน และตอนนี้เป็นหนึ่งใน 16 คนที่ถูกอดีตหัวหน้ากองทุน ผู้ที่ถูกไล่ออกฟ้องฐานหมิ่นประมาท จากการเปิดเผยข้อเท็จจริง ระบุว่ากองทุนฟื้นฟูฯ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเกษตรกรทั้งแก้ปัญหาหนี้เก่าและสร้างอาชีพใหม่ แต่กรณีนี้ คนถูกกล่าวหาทุจริตกลับเป็นหนึ่งหัวหน้ากองทุน และตั้งคำถามถึงความคืบหน้าของคดีนี้ด้วย

นายอริยวัตถ์ เที่ยงธรรมโม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ ปปท.เขต6 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า คณะกรรมการปปท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวน เรื่องนี้เมื่อกันยายนปี 2563 และตอนนี้ได้สอบพยาน หลักฐานได้เกือบครบ คาดว่าอนุกรรมการไต่สวน จะลงความเห็นว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ในเดือนพฤษภาคมนี้

ข่าว 3 มิติตรวจสอบพบว่าคดีนี้แม้ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ 1คนถูกไล่ออก และอยู่ระหว่างไต่สวนของ ปปท. แต่ข้อเท็จจริงมีผู้ร่วมขบวนการ เช่นกลุ่มที่ใช้เล่ห์กลรวบรวมสำเนาบัตรประชาชนชาวบ้านเพื่อเป็นต้นเรื่อง ทำการกู้ยืมอันเป็นเท็จจากสหกรณ์ ขบวนการปลอมแปลงเอกสารสหกรณ์เพื่อขายหนี้ให้กองทุน และอีกกลุ่มก็คือคนในกองทุนขณะนั้น ที่เกี่ยวข้อง รวมคนที่อยู่ในข่ายร่วมกระทำผิดที่จะถูกไต่สวน อย่างน้อย 11 คนแล้ว