ตำรวจไทย-กัมพูชาฝึกยุทธวิธีปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ผนึกกำลังเร่งกวาดล้างให้สิ้น

กัมพูชาส่งตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รุ่นที่ 1 เข้าฝึกอบรมทางยุทธวิธี ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ หลังทั่วโลกมีอาชญากรรมไร้พรมแดน และส่วนใหญ่อยู่ในโลกของโซเชียล และกัมพูชาเป็นประเทศหนึ่งที่แก๊งคอลเซนเตอร์ เข้าไปตั้งฐานหลอกลวง ทำให้ตำรวจกัมพูชาร่วมกับตำรวจไทยต้องเร่งทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดไปโดยเร็ว

จากปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งนับเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีนายทุนระดับสั่งการเป็นชาวจีน ในช่วงที่ผ่านมา สามารถจับได้นายทุนชาวจีน และผู้ต้องหาได้มากกว่า 60 คน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพล.ต.อ.ซอเทพ รองผบ.ตร.แห่งกัมพูชา ในการเข้าจับกุมเป็นอย่างดี พบหลักฐานในการกระทำผิดจำนวนมาก แต่เนื่องจากประชาชนชาวกัมพูชาไม่ใช่เหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ มีแต่คนไทยที่เดินไปเป็นมิจฉาชีพหลอลวงกคนไทยด้วยกัน โดยใช้กัมพูชาเป็นฐาน

ทำให้ทางการกัมพูชาก็ไม่ต้องการให้มีองค์กรอาชญากรรมตั้งฐานในประเทศ อีกทั้งต้องการเพิ่มศักยภาพ จึงได้ส่งตำรวจกัมพูชาชุดแรกเข้ามาฝึกยุทธวิธี ร่วมกับตำรวจไทย จำนวน 28 นาย โดยมีพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้การสนับสนุนหลักสูตรในการฝึกยุทธวิธี และดูแลการฝึกตลอดช่วงระยะเวลา 19 วัน

ซึ่งการฝึกฝนในแต่ละวันจะเป็นไปด้วยความเข้มข้นจากครูฝึก หลายหน่วย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านยุทธวิธี เพื่อถ่ายถอดความรู้ โดยตำรวจกัมพูชา ซึ่งได้รับการคัดเลือกมาจากทั่วประเทศล้วนตั้งใจ และมีระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก ทำให้มีพัฒนกาการอย่างรวดเร็วและจะมีการทดสอบตามหัวข้อที่ครูฝึกให้โจทก์ไว้

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งพื้นที่ความรับผิดชอบติดแนวชายแดนกัมพูชาระบุนับเป็นนิมิตรหมายที่ดี ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ขณะที่ตำรวจกัมพูชากล่าวว่าจะนำเทคนิคและยุทธวิธีไปถ่ายทอด และใช้ได้จริงในการเผชิญเหตุในหลายสถานการณ์

และเนื่องจากแก๊งคอลเซนเตอร์ ยังโทรศัพท์หลอกคนไทยด้วยกันอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เปลียนรูปแบบและวิธีการ ปฏิบัติการ การรวมพลังระหว่างตำรวจไทยและกัมพูชา จึงเป็นภารกิจครั้งล่าสุดที่จะประสานงานกันอย่างจริงจัง ก็หวังให้อาชญากรข้ามชาติหมดไป