รวบคนสนิท 'สมเด็จพระวันรัต' ยักยอกเงินวัดบวรฯ พบรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายกองปราบปรามและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เวลาสืบสวนทางลับนานหลายเดือน กระทั่งจับกุม อดีตไวยาวัจกรวัดและคนใกล้ชิด สมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวรวิหารยักยอกเงินในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศ และวัดสาขากว่า 190 ล้านบาท

โดยศาลอาญารัชดาได้ออกหมายจับผู้มีหน้าที่ดูแลบริหารงานภายในวัด หรือไวยาวัจกร เมื่อปลายเดือนมีนาคม หลังตำรวจกองปราบปราม ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่ามีการยักยอกเงินจากวัด ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564

โดยฆราวาส ซึ่งอาศัยความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต ได้ออกอุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน และได้นําใบถอนเงินฉบับดังกล่าวมาเขียนจํานวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนำไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม จ .พระนครศรีอยุธยา

และต้นปี 2565 ฆราวาสคนดังกล่าว ยังใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน แล้วนํามาเขียนจํานวนเงินตามที่ตนเองต้องการ อีกเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของ สมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่งเป็นผู้นําใบถอนเงิน ไปแสดงต่อพนักงานธนาคารเพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม แล้วนำไปซื้อแคชเชียร์เช็ค

ทางวัดซึ่งเป็นผู้เสียหายจึงได้ร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และได้ขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สินวัดบวรนิเวศวิหาร และตรวจสอบทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ด้วย โดยจากการตรวจสอบ พบว่า สมเด็จพระวันรัต ได้เปิดบัญชีเงินฝากส่วนตัว และบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร ไว้กับธนาคาร จํานวนหลายบัญชี

แต่พบว่าประมาณปลายเดือนตุลาคม 2564 มีผู้ใกล้ชิดนำสมุดบัญชีเงินฝาก จํานวนหลายเล่ม และบัตรประจําตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือไปติดต่อกับ พนักงานธนาคาร เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ในการทําธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองทําธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจํานวนทั้งสิ้น กว่า190 ล้านบาท



ศาลได้อนุมัติหมายจับในข้อหา ฉ้อโกง, ลักทรัพย์, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และ ฟอกเงิน จากการตรวจค้นบ้านพักของ คนใกล้ชิดพบทรัพย์สิน เป็นจํานวนมากทั้งรถยนต์หรู ยี่ห้อเบนลี่ ยี่ห้อปอร์เช่ ยี่ห้อวอลโว่ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ยี่ห้อเล็กซัส , เงินสด , เงินฝากในบัญชี , อสังหาริมทรัพย์ , กระเป๋าแบรนเนม , พระเครื่องทองคํา รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ประสานงานไปยังสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดําเนินการ ต่อไป