ย้อนปฏิบัติการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลใน “พัทลุง-สงขลา” ตลอด 2 เดือน

จังหวัดพัทลุงเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง มาแล้วหลายครั้ง โดยจับนักการเมืองท้องถิ่น ที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน 

ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ตรวจค้นผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และยาเสพติด โดยระดมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ใน จ.พัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง หลังปิดล้อม ตรวจค้น 8 เป้าหมาย ใน จ.พัทลุง และ จ.สงขลา จับผู้ต้องหาได้ 3 คน คือ นายธีระพงศ์ หรือกำนันตุ้ม เพชรตีบ อายุ 52 ปี  , นายบุญประเสริฐ พรหมกุล อายุ 59 ปี และ นายเอกภพ พงศ์พิศาล อายุ 39 ปี ยึดปืนได้ 43 กระบอก แบ่งเป็น อาวุธปืนยาว 16 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 237 นัด

โดยผู้ต้องหารายสำคัญในปฏิบัติการครั้งนี้ คือ นายธีระพงศ์ หรือกำนันตุ้ม มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นอดีตกำนันใน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าและพยายามฆ่า ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อาวุธปืน ปลอมแปลงเอกสาร จำนวนหลายคดี ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่หลบหนีประกัน ไม่มาฟังคำพิพากษา จึงถูกศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีออกหมายจับเมื่อปี 2558 หลังร่วมกับพวกจำนวน 10 คน วางแผนปล้นรถบรรทุกขนยางพารา โดยแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฆ่าเจ้าทรัพย์ เสียชีวิต 3 คน แต่การเข้าจับกุมผู้มีอิทธิพลบางครั้งก็จะมีมวลชนให้ความช่วยเหลือ และต่อต้านเจ้าหน้าที่

ส่วนกรณีของนายจำรัส หรือ ฉุย และพรรค ตำรวจกอบปราบได้ติดตามพฤติกรรมมาระยะหนึ่งแล้ว จนทราบว่าวันเกิดเหตุ นายจำรัสได้มาขอสาวให้กับนายวัชระ เพื่อนร่วมแก๊ง ที่ยิงใส่ตำรวจและถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งการปรากฎตัวของนายจำรัสและพวก ทำให้ตำรวจกองปราบปรามเห็นว่าเป็นผู้ต้องหามีหมายจับและเกรงจะหลบหนีเพราะกลุ่มผู้ต้องหาเก็บตัวเงียบมานานแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล กลุ่มมือปืนรับจ้างและกลุ่มค้าอาวุธ โดยมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้ดูแล ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ที่มีการจับกุมกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองท้องถิ่นที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ทั้งใน จ.ตรัง และ จ.พัทลุง มาโดยตลอด