สธ.ยกระดับ 4 เตือนภัยโควิด จ่อเสนอ ศบค.ปิดร้านอาหารกึ่งบาร์ พรุ่งนี้

ยอดผู้ป่วยโควิดทั่วโลก ใกล้แตะหลัก 300 ล้านคนแล้ว โดยไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมาเป็น 5,775 คน แล้ว หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่ราว 2–3 พันคนต่อวันมาตลอด ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขประกาศยกระดับการเตือนภัยโควิด เป็นระดับ 4 และเตรียมเสนอ ศบค.ยกระดับมาตรการในวันพรุ่งนี้ โดยให้ปิดร้านอาหารกึ่งผับบาร์ที่เป็นต้นตอของแพร่ระบาด

นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้อธิบายการยกระดับการเตือนภัยการแพร่บาดของโควิด 19 ในครั้งนี้ โดยปรับจากระดับ 3 เพิ่มขึ้นมาเป็นระดับ 4 หลังวันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อรายวันมากถึง 5775 คน สูงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน นับตั้งแต่ 4 ธันวาคม 2564 หลังตัวเลขในช่วงที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 2,000-3,000 คนเท่านั้น

โดยจังหวัดชลบุรียังมีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง 769 คน รองลงมาเป็น จังหวัดสมุทรปราการ 484 คน และกรุงเทพมหานคร 454 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการใช้บริการร้านอาหารกึ่งผับบาร์ จึงได้เสนอให้ ศบค. พิจารณาปิดร้านอาหารประเภทนี้ และ สถานที่เสี่ยงที่มีระบบระบายอากาศไม่ดีพอ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของการแพร่ระบาดในครั้งนี้

สำหรับ มาตรการระดับการเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 4 ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้งดไปสถานที่เสี่ยงต่อการรวมกลุ่ม การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ส่วนการทำกิจกรรมที่มีผู้คนจำนวนมากก็ ขอให้งด รวมถึงการเดินทางข้ามจังหวัดด้วยรถโดยสารสาธารณะ โดยไม่มีความจำเป็น ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมืองดการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการปรับระดับพื้นที่สี ในแต่ละจังหวัด ขณะนี้ทางกรมควบคุมโรคได้ทำแผนที่ปรับระดับพื้นไว้แล้ว

อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 5 ในตอนนี้ เบื้องต้นเป็นการขอความร่วมมือจากประชาชนก่อน เพราะมีบทเรียนจากการปิดสถานประกอบการทุกระลอกที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลกระทบมาก จึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดอีก อย่างไรก็ตาม มาตรการด้านสาธารณสุขที่จะยกระดับขึ้นเป็นระดับ 4 จะเสนอในที่ประชุม ศบค.พิจารณาการปรับระดับมาตรการแต่ละพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ ก่อนประกาศใช้อีกครั้ง

ขณะที่กลุ่มภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งร้านอาหาร สถานบันเทิง โรงแรม และบริษัททัวร์ นำพวงหรีดมาวางไว้อาลัย หน้ากระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่า ประกาศยกระดับมาตรการโควิด-19 เป็นระดับ 4 ดังกล่าว กระทบต่อผู้ประกอบการจำนวนมาก ทั้งนี้เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่ทำให้ผู้ประกอบการ สามารถเปิดกิจการและอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยกล่าวไว้ ว่าต้องปรับมาตรการหลังช่วงปีใหม่ในทุกด้าน จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมไว้ แต่เชื่อมั่นว่า มาตรการฉีดวัคซีนยังได้ผล โดยจะพิจารณาจากอัตราการเจ็บและการเสียชีวิตของการระบาดใน ช่วง 7-10 จากนี้


ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกแม้หลายประเทศจะออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนออกมา แต่จำนวนผู้ติดเชื้อก็ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส ที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดในระลอกที่ 5 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำสถิติสูงสุด ถึง 332,000 คน รวมทั้งตัวเลขผู้เสียชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ โปรตุเกส , ตุรกี, อิตาลี, สวีเดน, เนเธอร์แลนด์ , อิสราเอล ก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน หลายฝ่ายมองว่า ถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรุนแรงลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ที่วิเคราะห์ว่า โอมิครอน ไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง