แม่โผล่ร่วมงานศพ "น้องสายฟ้า" หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ ต้องเผ่นขึ้นรถตำรวจ

ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 6 ขวบ พบเสียชีวิตภายในรถเก๋ง ผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้น แพทย์ระบุว่า มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ และมีร่องรอยกระดูกแขนเคยหักมาประมาณ 2 เดือน จึงเชื่อว่าเด็กถูกทำร้ายจนบาดเจ็บมาหลายครั้ง จนมาถึงการทำร้ายล่าสุดทำให้เสียชีวิต

พ่อเลี้ยงของเด็กยอมรับสารภาพ โดยอ้างว่า คืนเกิดเหตุตนเองมานอนในรถกับลูกเลี้ยงตามปกติ แต่เด็กเซ้าซี้อยากจะขอไปจับปูด้วย ทำให้ตนเองโมโหจับลูกเหวี่ยงฟาดกับล้อรถยนต์จนหัวกระแทกกะโหลกร้าว พร้อมยืนยันว่าตนเองก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งต่อมาตำรวจได้นำตัวพ่อเลี้ยงรายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ขณะที่แม่ของเด็ก เมื่อคืนนี้ตำรวจได้นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม สุดท้ายก็รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือตีลูกด้วย ตำรวจจึงได้คุมตัวกลับไปที่บ้านเพื่อเก็บหลักฐานที่ใช้ทำร้ายลูก และนำตัวกลับมาสอบปากคำต่อ พร้อมกับแจ้งข้อหากับทั้งคู่ร่วมกันทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต

ส่วนพ่อเลี้ยง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.แหลมงอบ ได้คุมตัวขึ้นรถไปขออำนาจศาลฝากขัง นักข่าวพยายามเข้าไปสอบถามผู้ต้องหาว่ายังยืนยันว่าก่อเหตุคนเดียวหรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ

พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด เปิดเผยว่า ต้องรอดูผลชันสูตรจากแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นก็พบร่องรอยความเสียหายที่กะโหลกศีรษะที่คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ส่วนกรณีที่พบสารเสพติดในร่างของเด็กชายนั้น มีการบังคับให้เด็กเสพอะไรหรือไม่ ตำรวจบอกขอให้รอรายละเอียดผลชันสูตรก่อน ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ อยู่ระหว่างสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในการตั้งข้อกล่าวหา

ขณะเดียวกันวันนี้ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตราด ได้ยื่นเรื่องต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอรับลูกคนเล็กวัยขวบเศษของผู้ต้องหาไปดูแล เนื่องจากไม่มีคนดูแล

ต่อมาในช่วงค่ำวันนี้ ศพเด็กชายวัย 6 ขวบ ถูกนำกลับจากการชันสูตร เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม และแม่เด็ก ได้ขอให้ตำรวจพอตัวมาร่วมพิธี หลังจากที่แม่จูบที่ศพลูก ชาวบ้านที่มาร่วมพิธี กรูกันเข้าไปล้อมเพื่อรุมประชาทัณฑ์ จนแม่ต้องรีบขึ้นรถตำรวจกลับไปที่สถานีตำรวจภูธรแหลมงอบ