สังคม
ผู้ลี้ภัยเมียนมา วอน ไทย-นานาชาติ ช่วยเหลือเร่งด่วนด้านปัจจัยพื้นฐาน
โดย pattraporn_a
30 ธ.ค. 2564
92 views
สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมา และกลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ยังสงบต่อเนื่อง กลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบในพื้นที่แม่สอด รับอยากให้ทั้งไทย และนานาประเทศให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในด้านปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขายืนหยัดสู้กับรัฐบาลทหารทวงประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประเทศบ้านเกิด
ชาวเมียนมาหนีภัยการสู้รบจากหมู่บ้านใกล้เมืองเลเกก่อ มายังริมแม่น้ำเมย เพื่อความปลอดภัย มา 2 สัปดาห์แล้ว โดยกางเต้นท์อยู่กันเป็นครอบครัว ประมาณ 700 คน ในพื้นที่ตรงข้ามท่าน้ำตำบลมหาวัน ซึ่งส่วนใหญ่มีเด็กและผู้หญิง พวกเขาบอกว่า แม้มีข่าวว่าทั้งทหารเมียนมาและทหารกะเหรี่ยง KNU ได้เจรจาหยุดยิงแล้ว แต่ยังไม่มั่นใจที่จะกลับเข้าบ้าน เพราะเมื่อเช้านี้ยังมีเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งหากสถานการณ์สงบก็อยากกลับบ้าน เพราะไม่มีใครอยากลี้ภัยมาอยู่แบบนี้
โชคดีที่เจ้าหน้าที่ไทยและคนไทยได้ให้การช่วยเหลือเรื่องอาหารและสิ่งของจำเป็น ทำให้พวกเขาพอประทังชีวิตอยู่ได้ เนื่องจากไม่ได้อพยพมาฝั่งไทย เพราะอยากอยู่ใกล้บ้าน ที่พร้อมจะกลับไปทันทีที่ปลอดภัย
ยังมีอีกหลายพื้นที่ริมแม่น้ำเมย ที่มีผู้หนีภัยอยู่ในฝั่งเมียนมา ไม่ได้ข้ามฝั่งมาไทย ซึ่งรายงานล่าสุดของศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ระบุว่า เมื่อเช้าวันนี้ได้เกิดการปะทะระหว่างทหารเมียนกับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ที่บ้านเลเกก่อ จังหวัดเมียวดี ห่างจากชายแดนไปประมาณ 8 กิโลเมตร ละได้ยุติลงในเวลา 10.00 น.
ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู๋ระหว่างการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบ ทำให้ผู้หนีภัยในคอกวัวมหาวันเมยโค้ง อำเภอแม่สอด คงเหลือ 3,988 คน และที่บ้านหมื่นฤาชัย อำเภอพบพระ คงเหลือ 52 คนทางการไทยยังให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจนกว่าจะเดินทางกลับ โดยมีกองอำนวยการร่วมที่ตำบลมหาวัน และทางกิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด เป็นศูนย์รวมในการบริจาคสิ่งของช่วยเหลือให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารนำไปมอบให้กับผู้หนีภัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว
นอกจากความขัดแย้งทางชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อจับกุมกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยและกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหาร ทั้ง CDM และ PDF ที่มีรายงานว่าได้เข้ามาฝึกกำลังและหลบหนีอยู่ในเมืองเลเกก่อ ซึ่งข่าว 3 มิติได้พูดคุยทางออนไลน์กับหนึ่งในผู้เรียกร้องประชาธิปไตยชาวเมียนมา ที่หนีภัยการสู้รบจากเมืองเล่เกก่อ เปิดเผยว่า ทหารเมียนมาได้เข้ามาตรวจค้นในเลกก่อ ต่อเนื่องถึง 8 ครั้ง ดดยมีการจับกุม CDM และ PDF ถูกจับกุมไป 7 คนเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของทหารและทรมานจนบางคนถึงแก่ความตาย ส่วนที่เหลือยังไม่รู้ชะตากรรว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ รวมถึงเพื่อนของเขา 2 คน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และอีกคนเพิ่งเสียชีวิต
การถูกไล่ล่ากวาดล้างจากรัฐบาลเมียนมา เป็นสิ่งที่เขาเศร้าใจมาก เพราะยังมีผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนับพันคนหลบหนีอยู่ในเมียนมา กำลังอันตรายกับชีวิตและไม่สามารถหลบหนีมาในไทยได้ เพราะหากเข้ามาช่องทางผิดกฏหมายก็จะถูกจับกุมและถูกส่งกลับไปยังเมียนมา มีโอกาสที่จะถูกคุมขังและเสียชีวิตอย่างสูง จึงอยากให้ทางการไทยและนานาชาติ ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทางการเมืองอย่างเร่งด่วน เพราะ พวกเขาคือผู้ลี้ภัย ที่เป็นผู้ที่ลี้ภัยมาทั้งสิ้น
สำหรับกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เป็นประชาชนที่มีการคัดกรองแล้วว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ก็ไม่ได้อพยพรวมมากับประชาชนทั่วไป เพราะไม่รู้ได้ว่าจะได้รับความปลอดภัยหรือถูกส่งกลับหรือไม่ ทำให้กลุ่ม ซีดีเอ็ม และ พีดีเอฟ กำลังเผชิญชะตากรรมที่อันตรายถึงชีวิตและต้องการความช่วยเหลือทั้งเงินทุน อาหาร และยารักษาโรค เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้อยากลี้ภัยและอยากต่อสู้กับรัฐบาลทหารเมียนมา จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา