คืบหน้า คดีหนุ่มบุรีรัมย์หายตัว 'เพื่อนสนิทชาย' รับมีปากเสียง แต่เปล่าทำร้าย แม่เชื่อถูกดักทำร้าย

กรณี 'นายต่อ' ชายชาวบุรีรัมย์ วัย 38 ปี หายตัวลึกลับ พบเพียงรถจักรยานต์จอดทิ้งในป่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ล่าสุด 'นายต้น' ชายที่เป็นเพื่อนสนิทชายยอมรับว่ามีปากเสียงก่อนนายต่อจะหายตัวไปจริง แต่ไม่ได้ทำการรุนแรง หรือทะเลาะจนลงมือกันแต่อย่างใด

ความคืบหน้าในวันนี้ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้เรียกกลุ่มเพื่อนชายที่นัดกันไปสวิงกิ้ง มาสอบปากคำอีกครั้ง โดยเฉพาะเพื่อนชายคนสนิท ที่กล้องวงจรปิด บันทึกภาพขณะทั้งคู่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกจากรีสอร์ท ล่าสุด ชายคนนี้ออกมาให้ข้อมูลกับข่าว 3 มิติ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเชื่อว่านายต่อยังไม่ตาย แต่อาจกำลังพยายามหลบซ่อนหรือหนีอะไรบางอย่าง ที่ไม่กล้าบอกกับคนที่บ้าน

ชายคนนี้พักไม่ไกลจากแนวเขา ระหว่างเข้าไปดักหนูพบจักรยานยนต์จอดขวางในสภาพน่าสงสัย จากภาพที่ชาวบ้านบันทึกไว้จะเห็นว่า จักรยานยนต์ของนายต่อ ถูกล็อคคอ-ถอดกุญแจ วางขาตั้งจอดไว้แบบนี้

ข่าว 3 มิติ ตั้งข้อสังเกตความผิดปกติของสภาพรถ ประเด็นแรกคือรูปแบบการจอด ถ้านี่เป็นการเอารถมาซ่อนอำพราง ทำไมถึงจอดไว้โจ่งแจ้ง 2.ถ้าเกิดเหตุร้าย ทำไมกุญแจถูกถอด ล็อคคอ วางขาตั้งแบบจงใจ 3.ถ้ารถคันนี้ไม่ได้ถูกยกขึ้นหลังกระบะ และนายต่อหรืออาจมีใครเป็นคนขับขี่ ทำไมกระจกขวาถึงอยู่ในสภาพหมุนผิดรูป

นายต่อหายไปไหนและเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ข่าว 3 มิติ ย้อนกลับไปที่รีสอร์ทที่คนกลุ่มนี้ นัดหมายกันไปมีเพศสัมพันธุ์แบบกลุ่ม หรือสวิงกิ้ง


การสืบสวนของตำรวจ พบมีตัวละครที่ร่วมในเหตุการณ์คืนวันที่ 4 ต่อเช้าวันที่ 5 ธันวาคม อย่างน้อย 5 คน ห้องเบอร์ 5 ต่อกับต้น หรือชื่อจริง ๆ คือเต่า เพื่อนชายคนสนิท เปิดไว้ส่วนตัว 2 คน ห้องเบอร์ 4 เป็นของโต้ง หรือศักดิ์ดา เพื่อนชายคนใหม่ที่เต่า เพิ่งรู้จักผ่านแอพหาคู่

ต่อมาคือห้องเบอร์ 8 มีนายอู๊ด พักอยู่กับเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ซึ่งต่อมารับว่า เป็นคนฉีดไอซ์ผสมน้ำเกลือ ฉีดให้เพื่อน ๆ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างอยู่ที่โรงพัก นายเต่า เพื่อนชายคนสนิทที่มีภาพปรากฏในวงจรปิด ขณะซ้อนจักรยานยนต์ก่อนนายต่อหายตัวไป เปิดใจกับข่าว 3 มิติ ยอมรับว่าก่อนแยกกัน มีปากเสียงทะเลาะกันจริง แต่ไม่มีเหตุรุนแรง และเชื่อว่านายต่อยังมีชีวิต

ในขณะที่ครอบครัวของนายต่อ ที่เป็นผู้สูญหาย เปิดใจกับข่าว 3 มิติเช่นกัน โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ ซึ่งยืนยันว่าเงิน 900 บาทที่โอนให้ลูกชาย ยังค้างอยู่ในระบบธนาคาร สันนิษฐานว่าอาจมีคนบางกลุ่มหรืออาจเป็นใครบางคน ดักทำร้ายหรือพาไปทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนรถจักรยานยนต์ที่เจอในป่า เชื่อว่าน่าจะมีการจัดฉาก ซึ่งทุกคนก็ภาวนาขอให้นายต่อปลอดภัย คุณสถาพร ยังอยู่ที่บุรีรัมย์ จะติดตามคืบหน้ารายงานเข้ามาต่อเนือง