จับ บ.เมืองเศรษฐกิจพอเพียงฯ หลอกขายถุงมือยาง โกงข้ามชาติเกือบ 200 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในไทย หลอกขายถุงมือยาง ผู้เสียหายชาวสหรัฐถูกฉ้อโกง เสียหายเกือบ 200 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปบค.แถลงจับกุมผู้ต้องหาและบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศไทย หลอกขายถุงมือยางทางการแพทย์ให้ผู้เสียหายชาวสหรัฐอเมริกา มูลค่าความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย เตรียมฟ้องร้องให้ดำเนินคดีกับบริษัทฉ้อโกงขายถุงมือยาง ที่มีหลายบริษัท ใช้โอกาสช่วงมีความต้องการถุงมือยางทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 หลอกขายถุงมือยางข้ามชาติ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย

คดีนี้เกิดขึ้นหลังจาก ผู้เสียหายเป็นบริษัทตั้งอยู่ในรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ร้องต่อหน่วยงานของสหรัฐ และร้องทุกข์กับพนังานสอบสวน กองกำกับการ 1 บก .ปคบ. ว่าถูกบริษัทในประเทศไทย ฉ้อโกง หลอกขายถุงมือยางทางการแพทย์ โดยได้สั่งซื้อถุงมือยางสังเคราะห์ ประเภทไนไตร์ แบบไม่มีแป้ง จำนวน 2 ล้านกล่อง มูลค่ากว่า 15 ล้านดอลล่าร์

ซึ่งได้ติดต่อผ่านบริษัทสัญชาติจีนแห่งหนึ่ง อ้างว่าติดต่อผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือ เป็นบริษัทเอกชนของไทย ซึ่งเป็นบริษัทผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ผู้เสียหายจึงเข้าไปตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ พบว่าน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อว่าบริษัทแห่งนี้ จะสามาถผลิตถุงมือยางได้ตามปริมาณที่ต้องการ จึงตกลงทำสัญญาซื้อขายถุงมือ โดยจ่ายเงินค่ามัดจำ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินกว่า 6 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 184 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2563

แต่เมื่อผู้เสียหายต้องการขอตรวจสอบโรงงานผลิตกลับถูกปฏิเสธ และเมื่อนัดส่งมอบสินค้างวดแรก ที่คลังสินค้า ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี แต่บริษัทผู้ต้องหากลับไม่มีสินค้าส่งมอบให้ตามสัญยา โดยอ้างว่าสินค้าผลิตไม่ได้มาตรฐาน และอ้างเหตุล็อคดาวส์ จึงส่งมอบสินค้าให้เพียง 2,000 กล่อง จากตกลงไว้ 1 แสนกล่อง ผู้เสียหายจึงปฏิเสธ และพยายามทวงเงินคืน แต่ได้รับการปฏิเสธ

และเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 บริษัทผู้เสียหาย ได้ส่งตัวแทนไปตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานบริษัทของผู้ต้องหา ที่ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พบเป็นเพียงบ้านพัก ไม่พบโรงงานผลิตถุงมือยาง จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าร้องทุกข์ต่อ บก.ปคบ.ทำการสอบสวนรวบรวมหลักฐานจนขอหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวค้นสำนักงานบริษัทของผู้ต้องหา ที่ถ.รัชาดาภิเษก กรุงเทพ และจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอฝากขังต่อศาล

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า คดีหลอกขายถุงมือยาง สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย นอกจากคดีบริษัทแพ็ดดี้เดอะรูม ที่ บก.ปคบ.ได้เข้าตรวจสอบพบผลิตและขายถุงมือยางไม่ได้มาตรฐาน เมื่อปลายปี 2563 และมีการดำเนินคดีผู้ต้องหา 3 ราย ส่งฟ้องศาลจำคุกไปแล้ว 1 ราย ผู้ต้องหาชาวไต้หวันยังหลบหนีนั้น บริษัท แพดดี้เดอะรูม ยังถูกฟ้องคดีฉ้อโกง จากนายลูอิส ซิสกิน ผู้เสียหายชาวสหรัฐ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเรียกค่าไถ่ผู้เสียหายชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงนายลูอิส ตามที่สำนักข่าว CNN เสนอข่าว

ส่วนคดีที่ บก.ปคบ.แถลงจับกุมผู้เสียหายในวันนี้ เป็นผู้เสียหายชาวสหรัฐอีกราย ฟ้อง บริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นเจ้าของถุงมือยางยี่ห้อ SKY Med ที่บริษัท แพดดี้ เดอะรูม อ้างเป็นตัวแทนจำหน่าย แต่เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองบริษัท แต่สำหรับบริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเตียงที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ยังพบว่าถูกแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายชาวฝรั่งเศส และ ฮ่องกง อยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และมีผู้เสียหายอีก 1 ราย ประสงค์จะแจ้งความที่ บก.ปคบ.เพิ่มด้วย

ผู้บังคับการ บก.ปคบ.เปิดเผยว่า ตั้งแต่กลางปี 2563 ได้มีการจับกุมบริษัทผลิตถุงมือยางไม่ได้คุณภาพ และฉ้อโกง 15 ยาง มีของกลางถุงมือยางใช้แล้ว 32 ล้านชิ้น ความเสียหายมูลค่า กว่า 240 ล้านบาท จึงไม่อยากให้หลงเชื่อขบวนการมิจฉาชีพข้ามชาติเหล่านี้

สำหรับบริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเพียง ที่ถูกระบุว่า เป็นบริษัทที่ถูกจับกุมในคดีผู้เสียหายชาวสหรัฐ มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน มีนาวาอากาศเอก พิเศษ คัมภีร์ คัมภีร์ญานนท์ ประธานกรรมการบริหาร

ซึ่งก่อนหน้านี้ข่าว 3 มิติ ได้สัมภาษณ์จากกรณีถูกบริษัทแพดดี้เดอะรูมกล่าวอ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง และถูกแอบอ้างชื่อ โดยระบุว่า มีตัวแทนจำหน่ายนำแบรนด์ sky Med ไปขายจำนวนมาก ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งโรงงานในไทย แต่ใช้วิธีจ้างโรงงานต่างประเทศผลิตตามมาตรฐานใส่แบรนด์ sky med เพื่อส่งออก และกำลังมีการเปิดตัวโรงงานในจีน 9 โรง

มีรายงานว่า มีผู้เสียหายชาวต่างชาติ ฟ้องร้องบริษัทนี้ ไม่ต่ำกว่า 4 รายแล้ว มูลค่าความเสียหายอย่างน้อย 500 ล้านบาท นอกจากนี้พบว่าในเว็บไซต์ของ องค์การอาหารและยา สหรัฐฯ USFDA ขึ้นบัญชีแดง Red list บริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีนี้ ว่าสินค้าที่มาจากบริษัทนี้ให้กักไว้ที่ศุลากร ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีนี้