ป.ป.ช.เตรียมสอบจนท.ป่าไม้สระบุรี หลังหญิงชราร้องถูกยึดที่วิหารแดงโดยมิชอบ

ความคืบหน้าคดีที่ข่าว 3 มิติได้ติดตามก่อนหน้านี้กรณีที่ชาวบ้านรายหนึ่งที่อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ข่มขู่ ขับไล่ออกจากที่ทำกินทั้งอยู่อาศัยมาก่อนและไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือเขตป่าอนุรักษ์ เพียงแต่ยังไม่ได้ไปขอออกโฉนดเพราะอายุมากแล้วไม่มีความรู้ จนมีผู้มาขอซื้อหลายครั้งพอไม่ขายก็มีคนมาอ้างเป็นเจ้าของด้วย ก่อนที่ให้ป่าไม้ชุดนี้เข้าไปเจรจาเมื่อตกลงไม่ได้ จึงถูกดำเนินคดีว่าบุกรุกแผ้วถางป่า ทั้ง 2 ราย

มีคลิปภาพบางส่วนที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐหรือป.ป.ท. ติดกล้องแอบถ่ายบันทึกพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ป่าไม้กลุ่มหนึ่ง ระหว่างเดินทางเข้าไป ทั้งเจรจาและข่มขู่ เพื่อจะให้นางศรีไพร ตุ่นสมบัติ วัย 84 ปี ออกจากที่ทำกินหรือยอมแบ่งที่ดินให้กับผู้ที่มาผู้เป็นเจ้าของร่วม

เจ้าหน้าที่ป.ป.ท. 4 คน นำโดย นายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการป.ป.ท.ภาค1 จึงทำทีนั่งฟังโดยไม่แสดงตัว พบว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาจเข้าข่ายปฎิบัติหน้าที่มิชอบ เพราะจากการตรวจสอบพิกัดที่ดินดังกล่าว ก็ไม่ปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ หรือเขตอุทยานแห่งชาติ การที่เจ้าพนักงานป่าไม้ได้อ้างอำนาจ และดำเนินคดีฟ้องขับไล่จึงอาจไม่ถูกต้องตามระเบียบของกฎหมาย

ส่วนที่เห็นเป็นภาพมุมสูงที่ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ไปร่วมตรวจสอบปัญหาพิพาทในที่ดินดังกล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ดินแปลงพิพาท เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ 3 งาน บ้านเลขที่ 262 หมู่ 4 ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง นางศรีไพร ยืนยันว่า อาศัยทำกินมาตั้งแต่ปี 2499 ซึ่งเป็นการทำกินต่อพ่อที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้โดยมีร่องรอยการเข้าทำประโยชน์ แต่ไม่เคยไปเดินเรื่องขอออกโฉนดมาก่อน ทั้งที่แปลงข้างเคียงมีการออกโฉนดไปก่อนหน้านี้แล้ว

เจ้าหน้าที่ป.ป.ท.ตรวจพบมีภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังมีอดีตกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านข้างเคียงร่วม 40 คนมาเป็นพยานด้วย

ขณะที่ผู้ที่อ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินแปลงเดียวกันด้วย คือ นายจันทร์ ตันนอก ตามบัตรประชาชนอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่อ้างมาปลูกต้นไม้ไว้ จึงใช้เป็นหลักฐาน และเป็นต้นเหตุพิพาท แต่ไม่มีพยานรับรอง และนำชี้พิกัดที่แจ้งว่าเข้าทำประโยชน์ ซึ่งเป็นพิกัดใกล้เดียวกัน แต่เนื้อที่น้อยกว่านางศรีไพร

เมื่อทั้ง 2 ไม่สามารถตกลงกันได้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดังกล่าว จึงทำบันทึกจับกุมนางศรีไพรและนายจันทร์ ตันนอก ฐานบุกรุกแผ้วถางป่า ต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง เพื่อให้ดำเนินคดี และพนักงานสอบสวน เตรียมสั่งฟ้องคดีต่ออัยการเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาแต่ทางป.ป.ท.เห็นว่าการจะสั่งฟ้องได้หรือไม่ ต้องตรวจสอบและสอบปากคำพยานก่อนว่าชาวบ้านบุกรุกที่ป่าไม้ที่อยู่ในดำเนินหน้าที่ของเจ้าพนักงานป่าไม้หรือไม่

ซึ่งล่าสุดทาง นายธนวัตร ได้ส่งสำนวนการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดจับกุมให้เลขาธิการป.ป.ท.ตรวจ และลงนามส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปดำเนินการต่อฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่

นอกจากนี้จะทำเรื่องถึงกรมป่าไม้ด้วย และเตรียมให้นางศรีไพรฟ้องกลับผู้อ้างเป็นเจ้าของด้วยซึ่งต้องพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินว่า ใครคือเจ้าของที่ดินแปลงนี้ตัวจริง