สังคม

รัฐบาลไทย ปัดข่าวไม่เซ็นรับบริจาค "ไฟเซอร์" 1 ล้านโดส จากสหรัฐฯ

โดย pattraporn_a

23 ก.ย. 2564

42 views

กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุข  ยืนยันยังไม่ได้รับเอกสารแจ้งบริจาควัคซีนเพิ่มจากสหรัฐอเมริกา หลังจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยถึงการเข้าพบ พันโทหญิง แทมมี่ ดักเวิร์ธ ที่ระบุว่าทางสหรัฐฯ รอส่งวัคซีนอีก 1 ล้านโดส ให้กับไทย แต่รอการเซ็นต์เอกสารจากประเทศไทย


โดย พันโทหญิง แทมมี่ ดั้กเวิร์ธ วุฒิสมาชิก รัฐอิลินอยด์ สหรัฐอเมริกา กล่าวระหว่างการพบปะกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่สำนักงานของวุฒิสภาชิกแทมมี่ ที่กรุงวอชิงตันดีซี เมื่อค่ำวันที่ 22 กันยายน ซึ่งเป็นการนัดหมายเพื่อแสวงหาความร่วมมือในการสนับสนุนวัคซีนให้กับประเทศไทยเพิ่มเติม


พันโทหญิง แทมมี่ ระบุว่า ได้พยายามช่วยให้ประเทศไทยได้วัคซีนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงประเทศอินโดนีเซียและทุกประเทสในมหาสมุทรแปซิฟิก ในส่วนประเทศไทยมี 1 ล้านโดส ที่รอส่งให้แต่เพราะประเทศไทยยังไม่เซ็นต์เอกสาร จึงยังไม่มีการส่ง และได้ประสานไปยังเอกอัครราชทูตแล้ว และคงจะไปขอเพิ่มจากหน่วยงานของรัฐบาลอีกอาจเป็นเรื่องยาก เพราะยังมีอีกล้านโดสรออยู่ เชื่อว่าทันทีที่ไทยเซ็นต์รับ จะมีการจัดส่งไปอีก


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า วุฒิสมาชิก แทมมี่ ได้แสดงความห่วงใยต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทสไทย และประสงค์จะช่วยผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ บริจาควัคซีนให้ไทยเพิ่มเติม จากที่ได้แสดงเจตจำนงบริจาค 2.5 ล้านโดส โดยส่งมอบไปแล้ว 1.5 ล้านโดส ยังเหลืออีก 1 ล้านโดสที่ยังรอเอกสารจากทางประเทศไทย ซึ่งต้องขอบคุณวุฒิสมาชิกแทมมี่ ที่ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ และยังได้ประสานความร่วมมือในการที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของไทยมีความประสงค์จะซื้อวัคซีน mRNA ที่ FDA สหรัฐ รับรองอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อไปฉีดให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้ทั่วถึงเร็วขึ้น


ซึ่งทางวุฒิสมาชิก แทมมี่ ยินดีช่วยประสานงาน รวมถึงมีการประสานความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ที่จะเชิญ วุฒิสมาชิกแทมมี่ ให้นำนักธุรกิจอเมริกันมาพบปะกับนักธุรกิจไทย เพื่อฟื้นฟู และส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐหลังสถานการณ์โควิดในช่วงต้นปีหน้าด้วย


ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า การดำเนินการรับบริจาควัคซีนจากต่างประเทศ จะมีขั้นตอนพิธีการที่เป็นสากล ผ่านกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ซึ่งการสนับสนุนวัคซีนไฟเชอร์ 1.5 ล้านโดสให้กับไทย เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐฯ ได้มีเอกสารทางการทูต ถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทยเป็นการล่วงหน้า เพื่อแสดงความประสงค์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะมอบวัคซีนมาช่วยเหลือการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิดในประเทศไทย


แต่กรณีวัคซีนอีก 1 ล้านโดสนั้น นี้ยังไม่ได้รับเอกสารทางการทูตจากรัฐบาลสหรัฐฯ แจ้งเรื่องการสนับสนุนวัคซีนให้กับไทยเพิ่มเติม ข่าวที่ปรากฏ จึงไม่เป็นความจริง


ขณะที่ นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้ประสานงานติดตามพัฒนาการเรื่องการมอบวัคซีนเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ล็อตที่ 2 อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้รายงานว่าในขณะนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการภายใน โดยยังไม่ได้กำหนดการส่งมอบวัคซีน และสหรัฐฯ ยังไม่ได้ประสานงานด้านเอกสารกับหน่วยราชการไทยใดๆ ทั้งสิ้น


และ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 76 มีกำหนดจะเยือนกรุงวอชิงตัน เพื่อพบหารือผู้แทนระดับสูง ทั้งภาคการเมืองและรัฐบาลของสหรัฐฯ รวมถึง พันโท หญิง แทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ เพื่อผลักดันเรื่องการจัดหาวัคซีนจากสหรัฐฯ ด้วย


ส่วน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่าการดำเนินการรับบริจาควัคซีนจากต่างประเทศ จะมีการประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งยินดีรับจากมิตรประเทศต่างๆ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหาวัคซีน ที่เพียงพอสำหรับการฉีดให้ได้เป้าหมาย 70 เปอร์เซ็นต์ ของประชาชน ภายในสิ้นเดือนธันวาคมปีนี้แน่นอน ล่าสุดมีแล้วประมาณ 125 ล้านโดส รวมที่ฉีดไปแล้ว


นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อครั้งที่ 9 วันนี้ มีมติเห็นชอบการลดจำนวนวันกักตัวของผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่ลดลงเหลือ 7 วัน สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อครบตามกำหนด และประเภท กักตัว 10 วัน และ 14 วัน กรณีที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือการตรวจหาเชื้อตามที่กำหนด โดยจะเสนอให้ ศบค.พิจารณาต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News