เร่งขยายผล หาตัวการลอบขนกากอุตสาหกรรมทิ้งใกล้ชุมชน จ.ลพบุรี กระทบชาวบ้าน

มีประชาชนหลายครอบครัวในจังหวัดลพบุรี กำลังเดือดร้อนจากปัญหากลิ่นและวัตถุอันตรายปนเปื้อนในแหล่งน้ำ สาเหตุเชื่อว่า มีต้นตอมาจากบ่อลูกรังของเอกชนรายหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม หลังพบรถบรรทุกคลุมผ้าใบ วิ่งเข้า-ออกหลายครั้ง ซึ่งสงสัยว่า อาจลักลอบขนวัตถุอะไรบางอย่างมาทิ้ง ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ พบรอยฝังกลบและถังสารเคมีจำนวนมาก

เรื่องนี้เปิดเผยครั้งแรก ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ โพสต์ภาพและข้อความ ระบุความทุกข์ร้อนของบ้าน จากการกระทำของขบวนการลักลอบทิ้งสารอันตราย ข่าว 3 มิติ ไปที่ลพบุรี เป้าหมายเป็นที่โล่งแจ้ง ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม

ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ของกรมควบคุมมิลพิษ พบว่าที่ดินแปลงนี้ เป็นของเอกชนรายหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 3-4 ไร่ เคยเป็นบ่อลูกรังขุดเอาหน้าดินไปขาย มองจากถนนด้านหน้า จะเห็นเศษวัสดุของเสีย และถังสารเคมีที่ผ่านการใช้งานแล้ว ถูกนำมาทิ้งจำนวนมาก ผลกระทบที่ชาวบ้าน รวมทั้งเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงสัมผัสได้ ก็คืออาการแสบคัน และกลิ่นที่เหม็นคลุ้ง ฟุ้งกระจายไปทั่วรัศมีหลายกิโลเมตร

แม้จะค่อนข้างห่างจากชุมชน แต่ที่หลายกังวลก็คือปัญหาการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ภาพมุมสูงจะเห็นชัดเจนว่า บ่อน้ำที่ชาวบ้านและคนงานเคยใช้ประโยชน์ อยู่ต่ำกว่าและอยู่ห่างจากบ่อทิ้งสารเคมีเพียงไม่กี่เมตร

และนี่คือผลตรวจ 7 ตัวอย่างล่าสุด จากกรมควบคุมมลพิษ พบบางส่วนสามารถติดไฟได้ เข้าข่ายเป็นกากอุตสาหกรรม ประเภทของเสียอันตราย ผลการตรวจสภาพคือ น้ำ 5 จุด 5 ตัวอย่างในบ่อและรอบ ๆ พบค่าความเป็นกรด มีสารเคมีปนเปื้อนในปริมาณสูง ส่งผลต่อสุขภาพ ไม่เหมาะแก่การนำไปใช้ 000000000000000มีการประสานไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบวัสดุ สลาก และสารที่ใช้ รวมถึงรถบรรทุกต้องสงสัย ที่พลเมืองดี บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ขยายผลให้ถึงแหล่งต้นทางและผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ แจ้งดำเนินคดีทุกกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของที่ดิน และเจ้าของจะต้องออกค่าใช้จ่ายจัดการนำออก ฟื้นฟูทั้งหมด อธิบดีควบคุมมลพิษ จึงฝากแจ้งเตือนผู้ที่คิดจะเอาไปปล่อยทิ้งในที่สาธารณะ หรือรับมาทิ้งในที่ของตัวเอง มีความผิดทั้งแพ่งและอาญา ทั้งปรับและจำคุก