สังคม

ย้อนรอยที่มารถหรูของ 'โจ้' กับเส้นทางการฟอกรถเลี่ยงภาษีให้ถูกกฎหมาย

โดย panwilai_c

28 ส.ค. 2564

224 views

การเป็นเจ้าพนักงาน ที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีจับและยึดรถหรูหลบเลี่ยงภาษี มากถึง 368 คันในระยะเวลา 10 ปี ของอดีตผู้กำกับการโจ้ ถูกตั้งข้อสังเกตุควบคู่ไปกับการมีชื่อครอบครองรถหรูในบัญชีกว่า 30 คัน ซึ่งข้อสงสัยว่า อดีตผู้กำกับการโจ้ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ ในการหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ คณะทำงานตรวจสอบทรัพย์สิน ของ ป.ป.ช.กำลังรวบรวมข้อมูล ขณะที่ข่าว 3มิติ จะย้อนวิธีการฟอกรถหรูผิดกฎหมาย หรือรถหลบเลี่ยงภาษี ให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย เพื่อขายในกลุ่มคนที่นิยมรสหรู แต่เลี่ยงภาษี




รถยนต์ของกลางที่เห็นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นรถผิดกฎหมายศุลกากร คือนำเข้าโดยไม่จ่ายภาษี หรือจ่ายภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง เรียกว่าสำแดงเท็จ จึงถูกยึดมา แนวทางการจัดการรถของกลาง คือนำรถที่คดีสิ้นสุดแล้ว เพื่อขายทอดตลาด เงินที่ได้นำส่งเข้าคลังของประเทศ


อย่างไรก็ตาม การขายทอดตลาด ที่เคยคึกคักก็ต้องหยุดไป นับจากปี 2560 เป็นต้นมา เพราะกรมการขนส่งทางบกไม่จดทะเบียนให้รถบางรุ่น บางคัน ที่พบหลักฐานว่าไม่ใช่รถที่ถูกจับฐานเลี่ยงภาษีตามปกติ แต่มีขบวนการฟอกรถหรูเกิดขึ้น นั่นจึงทำให้กรมศุลกากรชะลอการขายทอดตลาด เพราะประมูลไปก็จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกไม่ได้


วิธีการฟอกรถหรูหนีภาษีของขบวนการมีอย่างน้อย 3 รูปแบบ คือนำรถหรูมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านชายแดนทางภาคใต้ของไทย ส่วนใหญ่ถอดอะไหล่ สมองกลรถออก แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่จับเพื่อยึด เมื่อคดีสิ้นสุดก็เข้าสู่การประมูล คนกลุ่มนี้มีเครือข่ายโยงใยทุกฝ่าย จึงรู้ว่าจะประมูลเมื่อใด และคนในวงการ ก็จะไม่แข่งราคา เพราะรู้ว่าอะไหล่สมองกลของรถไม่มี นั่นทำให้รถถูกประมูลได้ในราคาถูก ขณะที่รถถูกประมูลไปประกอบชิ้นส่วนสมองกล ก็นำไปจดทะเบียน


วิธีที่ 2 คือคนกลุ่มนี้ ไม่ถอดอะไหล่สมองกล แต่จะหารถหรูในประเทศไทย รุ่น และสี เดียวกัน จากนั้นจะทำป้ายทะเบียนปลอมขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นป้ายที่ตรงกับรถที่ถูกต้อง แต่คนกลุ่มนี้จะเลือกใช้รถคนละภูมิภาค กับรถที่ถูกกฎหมาย แต่บ่อยครั้งที่มีข่าวปรากฏว่ารถสีและรุ่นเดียวกัน ทะเบียนตรงกัน จอดอยู่ข้างกัน หรือบางครั้งมีใบสั่งไปถึงบ้านของคนที่เป็นเจ้าของรถจริง ทั้งที่ไม่ได้ขับเส้นทางดังกล่าว


วิธีที่ 3 คือนำเข้ารถอย่างถูกกฎหมาย แต่ใช้วิธีสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งราคาที่ต่ำลง ทำให้เสียภาษีอากรนำเข้าต่ำลงไปด้วย บางรายเป็นรถที่โจรกรรมมาจากต่างประเทศ แต่สำแดงนำเข้าไทย ในฐานะรถที่เป็นของนักศึกษาที่กลับจากต่างประเทศ


กรณีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อเสียภาษีต่ำ ก็รวมถึงแลมโบร์กินี อเวนทาดอร์ ที่เคยปรากฎชื่ออดีตผู้กำกับโจ้ ครองครอง แต่ตอนนี้ขายไปแล้ว และเฉพาะตัวรถกับผู้ครอบครอง อัยการมีความเห็นไม่ดำเนินคดีและไม่ยึด แต่ดำเนินคดีบริษัทผู้นำเข้า ที่สำแดงราคาต่ำ


ทั้ง 3 รูปแบบดังกล่าว ล้วนแต่เป็นวิธีฟอกรถผิดกฎหมายให้โลดแล่นให้ท้องถนนได้ แต่เมื่อคดีถูกสาวไปถึง รถของกลางก็จะถูกยึดไว้ และเพื่อไม่ให้รถของกลาง วนกลับไปสู่วังวนของกลุ่มคนที่มีเครือข่ายที่จะประมูลได้อีก ทำให้กรมการขนส่งทางบก ออกระเบียบไม่จดทะเบียนรถเหล่านี้ จนกว่าจะมีแนวทางเป็นอื่น และนั่นทำให้มีรถของกลางที่ถูกยึดไว้เกือบ 4 พันคัน

คุณอาจสนใจ

Related News