สังคม
ผู้ว่าฯ ยังไม่ให้ ปชช.รัศมี 1 กม. "รง.หมิงตี้" กลับบ้าน รอประเมินอีกครั้งเสาร์นี้
โดย pattraporn_a
8 ก.ค. 2564
36 views
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนในรัศมี 1 กิโลเมตร จากบริษัทหมิงตี้เคมิคอล กลับเข้าบ้านได้ แม้การควบคุมสารเคมีตกค้างจะทำได้สำเร็จแล้ว ยังต้องรอการเคลื่อนย้ายสารเคมีไปกำจัด ซึ่งจะเริ่มวันพรุ่งนี้ แล้วจะประเมินอีกครั้งว่าจะให้กลับบ้านได้ในวันเสาร์หรือไม่ ขณะนี้ขอให้อยู่ในศูนย์อพยพไปก่อน
ปฏิบัติการในการแปลงสภาพสารสไตรีนโมโนเมอร์ ไม่ให้เกิดไฟไหม้ได้อีก เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อช่วงเย็นวันนี้ หลังใช้เวลา กว่า 24 ชั่วโมง จัดการสารตกค้างภายนอกบ่อเพื่อไม่ให้ติดไฟ และภายในบ่อ เพื่อควบคุมความร้อน โดยการสนับสนุนสารดีห้า จากกลุ่มดาวเคมิคอล และสารเอฟห้าร้อย จาก กลุ่มบริษัท ปตท. พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและนักดับเพลิงเข้าปฏิบัติงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ปภ.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ทำงานต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน จนมั่นใจได้ว่าสารเคมีตกค้างจะไม่สั่งผลให้เกิดไฟไหม้ได้อีก แต่ต้องมีการเคลื่อนย้ายสารเคมีในบ่อไปกำจัดโดยเร็วที่สุด
หนี่งในเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยจากกลุ่มบริษัทปตท.ที่ทำหน้าที่เทสารเคมีลงบ่อ ยอมรับว่า การทำงานมีความเสี่ยงมาก แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมชุดดับเพลิงป้องกันสารเคมี และทำงานภายใต้ความปลอดภัย ซึ่งในช่วงกลางคืนมีอุปกรณ์โดรนทางยุทธวิธีจากสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติมาช่วยมอนิเตอร์ ถือเป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อยับยังอันตรายให้ประชาชนได้กลับเข้าบ้านโดยเร็วที่สุด
ผลการควบคุมสารเคมีที่สำเร็จ ทำให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการ เร่งให้บริษัทหมิงตี้เคมิคอล ดำเนินการเคลื่อนย้ายสารเคมีตกค้างตามมาตรการของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งพบว่ามีหลงเหลือในบ่อประมาณ 600 ตัน หรือ 6 แสนลิตร ที่จะเริ่มให้บริษัทเอกชนมาเคลื่อนย้าย ทำให้ยังไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนในรัศมี 1 กิโลเมตร กลับเข้าบ้านได้ โดยต้องรอให้มั่นใจว่าการเคลื่อนย้ายไม่อันตราย คาดว่าในวันเสาร์ที่ 10 กรกฏาคม จะพิจารณว่าจะให้กลับเข้าบ้านได้หรือไม่ ขณะนี้จึงขอให้ผู้อพยพเกือบ 200 คน ยังอยู่ในศูนย์อพยพทั้ง 4 ศูนย์ ไปก่อน
สำหรับการเคลื่อนย้ายสารเคมีไตรีน โมโนเมอร์ ทั้ง 600 ตัน จะดำเนินการโดยบริษัท อัคนีปราการ ใช้การดูดสารเคมีออกจากบ่อผ่าน วาล์ว แล้วเคลื่อนย้ายด้วยรถยนต์ไปเข้าเตาเผาความร้อนสูง ที่โรงงานกำจัดขยะพิษ ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย ยืนยันได้ว่าจะปลอดภัย โดยขอดำเนินการให้มั่นใจประมาณ 2 รอบ จึงประเมินให้ประชาชนโดยรอบกลับบ้านได้ แต่การเคลื่อนย้ายทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ประเมินความปลอดภัยในพื้นที่โดยรอบจนกว่าจะมีการเคลื่อนย้ายสารเคมีไปทั้งหมด โดยพื้นที่บริเวณนี้มีการประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ ตั้งแต่ปี 2537 เป็นอำนาจของท้องถิ่นทั้ง อบต.และอบจ.ต้องจัดการให้ทางโรงงานดำเนินการในการเยียวยาความเสียหายให้ผู้ได้รับผลกระทบด้วย
นายสหวัฒน์ โสภา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสหกรรม เปิดเผยว่า ยังไม่มีการดำเนินคดีกับทางบริษัท เพราะต้องรอการสอบสวนหาสาเหตุ ซึ่งบริษัทนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2532 มีการขยายใบอนุญาตเมื่อ 5 ปีก่อน ในจำนวนตามที่กำหนด จากบ่อสารเคมีที่มีความจุ 2,000 ตัน และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่พบปัญหาสารเคมีรั่วตามที่ประชาชนร้องเรียน โดยประชาชนที่เสียหายสามารถฟ้องร้องทางบริษัทได้ ซึ่ง ทาง สภ.บางแก้ว ยังเปิดรับแจ้งความทุกวัน
ในขณะที่การเยียวยาให้ประชาชน นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ทางอำเภอจะเปิดให้ประชาชนยื่นเรื่องร้องเรียน ขอให้ถ่ายภาพและใบเสร็จการซ่อมแซมไว้จะทำการเบิกเงินตามข้อกำหนดของรัฐไม่ได้ทั้งหมด