เปิดขบวนการนำพาแรงงานต่างชาติ ลักลอบเข้าไทยผ่านเส้นทางกาญจนบุรี

สถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้แรงงานเพื่อนบ้านเดินทางกลับไปจำนวนมาก และยังคงมีการปิดด่านพรมแดน ทำให้ไม่สามาถนำเข้าแรงงานถูกกฏหมายได้ หลายพื้นที่จึงเริ่มมีการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฏหมาย

โดยพื้นที่ที่พบมากสุดในขณะนี้คือที่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติ และขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ที่หาช่องทางหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งพบว่ามีเครือข่ายมากกว่า 30 คนทั้งในประเทศเมียนมาและไทย ขณะกำนันตำบล ปลังเผล อำเภอสังขละบุรี นำกำลัง ชรบ.ไปจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีข้อมูลเข้ามาแล้ว 20 คน

สภาพพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจบุรี เป็นพรมแดนทางบก ที่มีหมู่บ้านเชื่อมต่อเดินเท้าเข้ามาตามพื้นที่ไร่อ้อย พื้นที่ป่า กลายเป็นช่องทางธรรมชาติ ที่ขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ใช้ในการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาได้ง่าย โดยใช้วิธีหลบเลี่ยงด่านตรวจความมั่นคงของไทย

จากการสำรวจเส้นทางของ ข่าว 3 มิติ ตามข้อมูลของประชาชนในพื้นที่พบว่า การทำงานของ ขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวจากเมียนมา เข้ามาในไทยนั้น มีเครือข่ายไม่ต่ำกว่า 30 คน โดยมีนายหน้าในฝั่งเมียนมา 2 กลุ่มสำคัญ คือ นาย ท.ในบ้านพญาตองซู นาย ช.ที่บ้านบ่อญี่ปุ่น ทำหน้าที่รวบรวมคนในฝั่งเมียนมา มารวมกันก่อนกระจายส่งเข้าไทย โดยมีเครือข่ายขนส่งในไทยทำหน้าที่ในการนำทางเดินเท้า รับจ้างขับรถยนต์ และรับจ้างขนส่งทางเรือ กลุ่มละไม่ต่ำกว่า 10 คน รวมแล้วจะมีคนทำงานไม่ต่ำกว่า 30 คน ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี นำพาไปตามเส้นทางหลัก

เช่นเมื่อเดินเท้าจากบ้านบ่อญี่ปุ่นฝั่งเมียนมา เข้ามาในบ้านซองกาเลีย ได้แล้ว จะเดินลัดเลาะตามป่า หลบด่านตรวจ ลัดเลาะตามลำห้วยต่างๆ เช่น ห้วยลึก สลับลงเรือที่ประตูเมือง และเดินเท้า หลบด่านชป.ทางเรือ จากสะพานลันตี และมาลงเรือที่ห้วยมะแอ ล่องเรือไปตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ และไปขึ้นฝั่งในพื้นที่เขาสิงโต บ้านท่าดินแดง ตำบลปางเผล อำเภอสังขละบุรี

ซึ่งเมื่อช่วงเวลา 3 นาฬิกา เมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) ข่าว 3 มิติ ได้รับแจ้งข่าวจากแหล่งข่าวในพื้นที่ รายงานว่า มีการนำแรงงานต่างด้าวประมาณ 20 คน ขึ้นเรือบริเวณบ้านลิเจีย คาดว่าจะมาขึ้นฝั่งในพื้นที่เขาสิงโต จึงประสานกำนันตำบลปางเผล นำกำลัง ชรบ.เข้าตรวจสอบในช่วงเช้า

นายสมาน พิมพิลา กำนันตำบลปลังเผล อำเภอสังขละบุรี นำทีมข่าว 3 มิติตรวจสอบพื้นที่เชิงเขาสิงโต ที่ก่อนหน้านี้มีการจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวได้กว่า 30 คน พบว่า เชิงหน้าผา มีร่องรอยใบตอง และผ้าขนหนู ที่ถูกใช้ในการรองนั่งรองนอน เป็นหลักฐานการหลบซ่อนตัว ซองอาหาร ขนม ขวดน้ำดื่ม วางกระจายในหลายจุด

ชรบ.ตำบลปลังเผล ยังกระจายกำลังไปตรวจสอบตามเชิงผา ที่คาดว่าจะมีการหลบซ่อนตัวหลายจุด แต่ไม่พบแรงงานกลุ่มที่มีการแจ้งข่าว พบเพียงรอยรถยนต์ และหน้ากากอนามัย ในจุดทางออกที่คาดว่าใช้เป็นจุดขนคนด้วยรถยนต์ออกจากพื้นที่

นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบไปตามแนวป่าบริเวณเขาสิงโต และริมน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ จุดที่นำเรือขึ้นฝั่งมาส่งแรงงานต่างด้าว ไม่พบความเคลื่อนไหว ซึ่งกำนันตำบลปลังเผล ยอมรับว่า พื้นที่ที่กว้างและมีช่องทางธรรมชาติหลายจุด เป็นเรื่องยากมากที่เจ้าหน้าที่จะสกัดจับแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ได้หมด

ทั้งนี้ จากรายงานข่าวเชื่อว่ายังมีอีกหลายร้อยคนที่รอเข้าพื้นที่ ซึ่งอาจเกินกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะติดตาม ตรวจสอบได้ทั้งหมด จึงอาจต้องมีการปรับนโยบายในการจัดการแรงงานต่างด้าวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ให้เหมาะสมได้

จากรายงานทางการข่าวของประชาชน ข่าว 3 มิติ พบว่า นอกจากกลุ่ม 20 ที่พบลงเรือไปถึงบ้านท่าดินแดง ตำบลปางเผล อำเภอสังขละบุรี กว่า 20 คนที่ตามหาตัวไม่พบ ยังมีอีกหลายกลุ่มที่หลบหนีอยู่ตามป่า เช่นในพื้นที่ห้วยลึก ที่ทีมข่าวเดินเท้าไปสำรวจ พบคนกลุ่มหนึ่งวิ่งหลบหนีไปกว่า 5 คน และช่องทางธรรมชาติทีมีหลายช่องทาง เป็นเรื่องยากมากที่เจ้าหน้าที่จะสกัดกั้นได้หมด

สถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องปิดด่านพรมแดนกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่สามาถนำเข้าแรงงานถูกกฏหมายได้ ในขณะที่เมืองสำคัญที่เริ่มขาดแคลนแรงงาน จึงมีการนำพาแรงงานต่างด้าวมาในช่องทางผิดกฏหมาย

ขณะที่ สะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของสังขละบุรี กลายเป็นสะพานที่ร้างผู้คน เช่นเดียวกับ ร้านค้า โรงแรม ต่างพากันปิดบริการ รอวันให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนสังขละบุรี คืนรอยยิ้มให้ผู้คนตามแนวชายแดน