สังคม

ชายแดนไทย - เมียนมายังปะทะเดือด ชาวบ้านวอนหลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือ หลังมีเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง

โดย sujira_s

2 พ.ค. 2564

85 views

สถานการณ์การสู้รบในรัฐกะเหรี่ยง ล่าสุดคณะทำงานองค์กรภาคประชาสังคมบรรเทาทุกข์กะเหรี่ยง รายงานว่า มีผู้อพยพจากรัฐกะเหรี่ยงเข้ามาในไทยแล้วกว่า 3,000 คนและยังหลบหนีอยู่ในจังหวัดมือตรอ กว่า 7,000 คน ในขณะที่ประชาชนไทย ชาวบ้านท่าตาฝั่ง ต้องหลบหนีเสียงระเบิดจากเครื่องบินรบทหารพม่า มาในตัวอำเภอแม่สะเรียงหลายครอบครัว เพราะหวาดกลัวที่เห็นเครื่องบินบินวนเข้ามาในฝั่งไทยและเสียงระเบิดที่ดัง เรียกร้องให้มีการเจรจาหยุดยิง


เสียงเครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพพม่า และเสียงการทิ้งระเบิด เสียงยิงปืนจากอากาศยาน ได้ยินชัดในพื้นที่บ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ตั้งอยู่ริมน้ำสาละวิน และตรงข้ามฐานดา-กวินของพม่า พื้นที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ต่อเนื่องมา 4 วัน ทำให้ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงนี้ ทั้งวัน ทั้งคืน ต่างหวาดกลัว บางส่วนหลบไปอยู่ตามกระท่อมกลางทุ่งนา ตามลำห้วย บางส่วนต้องอยู่เฝ้าบ้าน เพราะเป็นห่วงเรือที่จอดอยู่ริมน้ำ และบางส่วนอพยพมาพักบ้านญาติในตัวเภอแม่สะเรียง ที่มีระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร


อย่างเช่นชายคนนี้ บอกว่า เห็นเครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์ที่ยิงลงมาในพื้นดินชัดมาก ทำให้หวาดกลัวว่าจะถูกลูกหลงยิงตกลงมาในฝั่งไทย ตัวเขาเกิดมาเพิ่งเคยเห็นการสู้รบรุนแรงขนาดนี้ จึงหนีมาอยู่บ้านญาติ


ขณะที่หญิงคนนี้มีลูกเล็ก 2 คน และบ้านตั้งอยู่ติดริมน้ำสาละวิน ไม่กล้านอนที่หมู่บ้านเพราะ ตอนกลางคืนเธอเห็นแสงไฟของเครื่องบินล้ำเข้ามาทางฝั่งหมู่บ้านของไทย แม้จะไม่มีลูกระเบิดหรือลูกปืนยิงตกมาฝั่งไทย แต่ก็ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวอย่างมาก จึงอยากให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว


ด้านคุณลุงคนนี้บอกว่า 4 วันมานี้ แม้จะไม่มีลูกระเบิดมาตกฝั่งไทย แต่พื้นที่ฐานดากวิน ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ลำน้ำสาละวินบริเวณนี้มีความโค้ง ทำให้เครื่องบินพม่าตีวงมาฝั่งไทย ซึ่งชาวบ้านเห็นได้ชัดและหวาดกลัว อย่างคืนวันที่ 28 เมษายน มีการยิง 5 รอบ แต่ชาวบ้านบางส่วนไม่กล้าหนีเพราะกลัวโรคโควิดด้วย จึงเรียกร้องขอให้ผู้มีอำนาจเจรจากับทหารพม่ายุติการปฏิบัติการสู้รบที่กระทบ ละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนไทยและควรเคารพกติการะหว่างประเทศด้วย


ขณะที่รายงานของศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมาด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ในวันที่ 30 เมษยน มีการยิงปะทะกันระหว่างทหารกะเหรี่ยง KNU กับทหารพม่าที่ฐานดากวิน ก่อนที่ทหารพม่าใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิด 2 ลูกห่างฐานดากวิน 1 กิโลเมตร และยิงจรวดอีก 2 ลูกรวมทั้งยิงปืนจากอากาศยานสู่พื้นดินใต้ฐานดากวิน โดยยืนยันว่ายังไม่บินรุกล้ำน่าฟ้าเข้ามาในฝั่งไทย มีเป้าหมายที่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ไม่ส่งผลกระทบต่อไทย จึงไม่ถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตย


ส่วนผู้อพยพจากรัฐกะเหรี่ยงมาอยู่ในไทย 4 จุดตามรายงานศูนย์สังการชายแดนระบุว่ามีจำนวน 2,318 คน ในขณะที่คณะทำงานองค์กรภาคประชาสังคมบรรเทาทุกข์กะเหรี่ยง เปิดเผยว่ามี 3,112 คนแล้ว และยังมีผู้ได้รับผลกระทบในเขตมือตรอ รัฐกะเหรี่ยงไม่ต่ำกว่า 7 พันคน ซึ่งผู้อพยพในฝั่งไทยขณะนี้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในการดูแลของทหารไทย ที่ปิดตายพื้นที่ห้ามเข้าถึงทั้งจากผลกระทบสู้รบและโรคโควิด


ซึ่งล่าสุดมีหลายหมู่บ้านในฝั่งไทยที่เป็นพื้นที่จะเข้าถึงผู้อพยพได้นั้น มีการปิดหมู่บ้านเพื่อป้องกันโรคโควิด ทำให้การส่งสิ่งของช่วยเหลือจากภาคประชาชนเริ่มกลับมาทำได้ยากขึ้น และยังไม่รู้ว่าจะมีวิธีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้อพยพของภาครัฐอย่างไร

คุณอาจสนใจ