เผยเบื้องลึก ขบวนการฆ่าช้างป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ซากช้างป่าบริเวณลำห้วย ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังตรวจพบรอยกระสุนอย่างน้อย 2 นัด เจาะเข้าไปในกะโหลก นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนปืนทั้งแบบ ไรเฟิล ลูกซอง และอาวุธสงคราม ลักษณะคล้ายระดมยิงใส่ช้างป่า ไม่ต่ำกว่า 30 นัด ตรวจซากไม่พบงา งวง และอวัยวะเพศ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือของขบวนการล่าช้างเอาอวัยวะ ล่าสุด อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ขยายผลไล่ล่าทั้งขบวนการ 

กระสุนลูกปรายอย่างน้อย 42 เม็ด ถูกพบในลำห้วยกลางป่าลึก ใกล้กับจุดที่ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจอซากช้างป่าในสภาพตายมาแล้วหลายวัน ดูจากลักษณะ สันนิษฐานว่าอาจเป็นช้างวัยเจริญพันธุ์ ไม่พบงา หรือแม้แต่เศษชิ้นเนื้อบริเวณงวง และอวัยวะเพศ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกต มีความเป็นไปได้ที่ช้างป่าตัวนี้ อาจถูกล่าเพื่อเอางาและอวัยวะ ดูจากพฤติการณ์และวัตถุพยานที่พบ เชื่อว่า ทำเป็นขบวนการ ใช้ปืนหลายขนาด ระดมยิงแบบไม่ยั้ง จำนวนหัวกระสุนที่ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ตรวจเจอในลำห้วยและซากช้าง / 4 นัดแรก

วันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ชุดลาดตระเวนอุทยานฯแก่งกระจาน ปะทะกลุ่มพรานป่า 3 คนพร้อมอาวุธครบมือ 2 คนเปิดฉากยิงต่อสู้หนีไปได้ อีก 1 คนไปไม่รอด ทราบชื่อคือนายซูดิ เวนะ อายุ 26 ปี ชาวบ้านป่าเด็ง อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี จับได้พร้อมปืนลูกกรดไทยประดิษฐ์ เครื่องกระสุน 66 นัด ซากงูเหลือมรมควัน 1 ซาก และอุปกรณ์อื่นๆ

จากนั้น ขยายผลตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ กระทั่งพบซากช้างป่าในห้วยตะนะ ที่อยู่ห่างจุดยิงปะทะราว 300 เมตร ผู้ต้องหาปฏิเสธ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่า ชายทั้ง 3 คน เกี่ยวข้องกับการตายของช้างหรือไม่

จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่าพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ มีหลายรูปแบบ ทั้งการล่าแม่เพื่อเอาลูก เหตุผลก็คือต้องการลูกช้างไปฝึกเป็นช้างเลี้ยง / ล่าเอางา เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทั้งในไทย โดยเฉพาะที่แอฟริกา / ล่าเอาอวัยวะ เคยพบในสมัย อธิบดีดำรงค์ พิเดช ราวปี 2555 ครั้งนั้นมีการออกมาแฉภัตรคารหรู เปิดขายเมนูเปิบพิศดาร ฝานอวัยวะเพศ ทำเมนูซาซิมิ / อีกรูปแบบคือ การล่าเพื่อเอาทั้งงาและอวัยวะ

โครงกระดูกและกะโหลก ถูกนำส่งพิสูจน์ที่ ที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน ตรวจหาหัวกระสุนอย่างละเอียดอีกครั้ง จากการสแกน พบหัวกระสุนฝังในกะโหลก 2 เม็ด เป็นอย่างน้อย ซึ่งอยู่ขั้นตอนผ่าเอาหัวกระสุนออกมาพิสูจน์

เบื้องต้น พบว่า มีกระสุนบางลูกปรากฏลักษณะเกลียว เจ้าหน้าที่จะนำไปเทียบเคียงกับทะเบียนปืน เพื่อหาว่าใครคือเจ้าของกระสุนมรณะ ใครที่เกี่ยวข้อง และใครที่อยู่เบื้องหลังของการกระทำที่โหดเหี้ยม